เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองตรัง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง กวาดล้างอบายมุข สิ่งผิดกฎหมายและจัดระเบียบสังคมอย่างเด็ดขาด บุกจับร้านอาหาร สถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ลักลอบค้าประเวณี
วันที่ 3 ก.พ.63 นายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอเมืองตรัง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง เร่งดำเนินการกวาดล้างอบายมุข สิ่งผิดกฎหมายและจัดระเบียบสังคมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้สั่งการให้นายณหทัย สุนทรนนท์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองตรัง นำกำลังปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน กองร้อย อส.อ.เมืองตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รวมประมาณ15นาย เข้าจู่โจมเข้าตรวจสอบและจับกุมร้าน “เปียโน” ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอาหาร และมีเครื่องดนตรี ตั้งอยู่เลขที่2/1ถ.โคกขัน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบค้าประเวณี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการล่อซื้อบริการ พร้อมแสดงตัวจับกุม น.ส.พรวดี คงกัลป์ อายุ 42ปี อยู่บ้านเลขที่37/1ซ.ร่วมใจ ต.นาสาร อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งรับเป็นผู้จัดการ/เจ้าของร้านเปียโน พร้อมเงินสด จำนวน3,000บาท โดยที่บริเวณหน้าร้านพบหญิงสาวกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งรอรับแขก เจ้าหน้าที่ได้นำพนักงานหญิงทั้ง9คน ไปทำการสอบปากคำเบื้องต้น เพื่อประกอบบันทึกการจับกุมและนำข้อมูลไปสู่การคัดแยกผู้เสียหาย พร้อมประสานทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มารับตัวไปฝึกวิชาชีพต่อไป
ทั้งนี้ มีการสืบทราบว่า ร้านเปียโน เป็นสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ได้ลักลอบค้าประเวณี โดยเปิดร้านอาหารบังหน้ามายาวนาน จนช่วงเวลาเที่ยงคืนของเมื่อคืนนี้ จึงได้วางแผนเข้าทำการล่อซื้อประเวณีจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) เป็นการชั่วคราว โดยจ่ายเงินค่าบริการให้กับ น.ส.เอ จำนวน3,000บาท ก่อน น.ส.เอ จะแบ่งเงินค่าตัวให้กับ น.ส.พรวดี เจ้าของร้าน จำนวน2,000บาท หน้าเคาท์เตอร์500บาท และค่าห้องพักอีก500บาท และพาเจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวเป็นผู้เข้ามาใช้บริการ ไปเปิดโรงแรมเพื่อร่วมหลับนอน จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำน.ส.พรวดี เจ้าของร้านเปียโน ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ตั้งข้อหา2ข้อหา ตาม ม.9และ ม.11คือ1.ข้อหา ผู้ใดเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำ ภายในหรือนอกราชอาณาจักร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1 - 10ปี/20,000 - 200,000บาท และ2.ข้อหา ผู้ใดเป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี ผู้ดูแล หรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่3 - 15ปี/60,000 - 300,000บาท นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป