หมดแรงขายไก่! มั่นใจเพื่อนขโมยเงินที่เตรียมซื้อบ้าน ตร.สอบเจ้าตัวปฏิเสธ(มีคลิป)

จากกรณีที่มีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดพ่อค้าแม่ค้าร้านไก่ย่างวิเชียรบุรี ที่เกิดเหตุถนนเลียบคลองสี่ฝั่งตะวันออก หมู่ที่ 7 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยคนร้ายได้เงินสด185,500บาท ที่เก็บสะสมไว้ในลิ้นชักตู้ภายในห้องนอนไปจนเกลี้ยง หลังเก็บมาเกือบ1ปีเพื่อจะนำเงินไปจุนเจือครอบครัว ซื้อบ้าน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่15 มกราคม2563 ที่ผ่านมา

จากการสอบถามนายวิศณุกร อัศสอน อายุ 44 ปีพร้อมภรรยาได้บอกทั้งน้ำตาว่าเมื่อวันที่ 15 ม.ค ตนเองพร้อมภรรยาได้ออกไปซื้อของกันตั้งแต่ตอนเที่ยงโดยให้ลูกชายอยู่กับน้องสาวเพียงสองคน ด้านลูกชายก็บอกว่าหลังจากที่พ่อออกไปคนร้ายก็ขับรถกระบะเข้ามาที่ร้านกับภรรยาและก็ได้ถามหาพ่อตนก็บอกว่าพ่อกับแม่ออกไปซื้อของ จากนั้นคนร้ายซึ่งรู้จักกับพ่อก็บอกให้ตนไปซื้อโรตี ตนจึงขับรถจักรยานยนต์ซักพักหนึ่งตนเองก็กลับบ้านซึ่งทางคนร้ายก็บอกกับตนว่ามีงานต้องกับก่อนจากนั้นก็ได้ขับรถกระบะออกไปซึ่งตนก็ยังไม่รู้เลยว่าพ่อเก็บเงินจำนวนมากไว้ที่ไหน

ด้านนายวิศณุกร บอกอีกว่าเมื่อตนกลับบ้านมาและเปิดห้องเข้าไปก็จึงรู้ว่าเงินจำนวน 185,500 บาท ถูกคนร้ายขโมยไปตนจึงไปถามลูกชายจึงรู้ว่าเป็นเพื่อนของที่รู้จักกันเข้ามาหาที่บ้านและก็อาจจะเป็นคนที่คนที่ขโมยเงินไปเพราะตอนที่ตนเองย้ายเข้ามาพักที่ตรงนี้เพื่อนคนนี้ก็ไปช่วยตกตู้ใบนี้มาด้วยและตนเองไม่เคยบอกใครนอกจากภรรยาของตนกับเพื่อนตนที่รู้เรื่องนี้

ตนเองได้หยอดเงินวันทุกวันๆละ 500 บาทเป็นเวลากว่า1ปีแล้วซึ่งสงกรานต์นี้ก็จะเอาเงินไปซื้อบ้านแต่ก็ต้องมาถูกคนร้ายขโมยไปซึ่งก็อยากฝากบอกคนร้ายให้เอาเงินมาคืนและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับคนร้ายให้ได้ด้วยและตนก็ได้ไปแจ้งความกับพ.ต.ต.วัชระพงษ์ เทียนประถัมภ์ สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง ไว้แล้ว

เมื่อวันที่ 18 มกราคม2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านที่เกิดเหตุ จ.ปทุมธานี พบว่าร้านยังไม่เปิดทำการค้าขายโดยมีนายวิษณุกร อัศสอน อายุ44ปี และนางขันแก้ว ปีสะเภา อายุ 34 ปี ยังอยู่ในสีหน้าเคร่งเครียดเพราะยังไม่มีเงินในการลุงทุนค้าขายกำลังนั่งแกว่งเปลเลี้ยงลูกสาววัย3ขวบอยู่เพราะหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้และนำเงินกลับมาได้เพื่อนำมาลงทุนค้าขาย

ด้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้ต้องให้ลูกชายคนโตอายุ 18 ปี ออกไปรับจ้างทำงานไฟฟ้าเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเพราะเงินที่มีอยู่นั้นถูกลักทรัพย์ไปจนเกลี้ยง ซึ่งล่าสุดมีเพื่อนสนิทคุ้นเคยกันหลังทราบข่าวว่าตนเองสิ้นเนื้อประดาตัว ติดต่อมาว่าวันนี้ช่วงเย็นจะนำไก่สดเข้ามาให้ย่างขายเพื่อตั้งตัวใหม่อีกครั้ง แต่เพื่อนที่ต้องสงสัยว่านำเงินไปกับไม่มีการติดต่อมาแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งตนเองและครอบครัวตอนนี้หมดกำลังใจและเสียขวัญเมื่อเห็นสภาพตู้ที่ถูกคนร้ายงัดนำเงินสะสมไป

ขณะที่พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งวานนี้ได้ไปเชิญตัวเพื่อนผู้เสียหายที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่ตลาด อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มาทำการสอบปากคำ โดยเจ้าตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ใช่ผู้ก่อเหตุและพร้อมเข้าให้ปากคำ พร้อมทั้งพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บได้ในจุดเกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ7วันนอกจากนี้ยังได้ให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป