ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
"Not all these boys might make it home” (เด็กบางคนอาจจะไม่ได้กลับบ้าน) เป็นหนึ่งในคำพูดจากหนังเรื่องใหม่ล่าสุดของ ทอม วอลเลอร์ ใน “The Cave นางนอน” ที่เล่าถึงปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย 13 ชีวิต ประกอบด้วยสมาชิกทีมฟุตบอลเยาวชนในท้องถิ่น 12 คน และผู้ช่วยผู้ฝึกสอน 1 คน ที่เข้าไปสำรวจถ้ำและหายตัวไป ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กลายเป็นข่าวโด่งดังและมีผู้ติดตามเหตุการณ์นี้ไปทั่วโลก
หนังนำเสนอตามเวลาจริงในเหตุการณ์ตั้งแต่ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน และนักฟุตบอลเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ได้ชักชวนกันขี่จักรยานเดินทางไปสำรวจบริเวณถ้ำหลวง และไม่สามารถกลับออกมาได้เนื่องจากขณะนั้นมีฝนตกหนัก และทำให้น้ำฝนไหลเอ่อเข้าท่วมถ้ำตามเส้นทางน้ำภายในถ้ำ และขาดการติดต่อจากผู้ปกครอง ทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล เอกชน และประชาชน ทั้งในและต่างประเทศ จึงต้องระดมอาสาสมัครในการค้นหา กู้ชีพและอื่นๆเข้ามาช่วยเหลือและพา 13 ชีวิต กลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยปฏิบัติการนี้ได้รวมนักดำน้ำมืออาชีพจากทั่วทุกมุมโลก เดินทางมาเพื่อเป็นหนึ่งในอาสาสมัครในการเข้ามาช่วยเหลือในปฏิบัติการค้นหาและกู้ชีพ ถึงแม้ว่าปฏิบัตินี้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะสำเร็จตามเป้าหมาย ถึงขั้นที่อาจจะไม่สามารถพาทุกคนออกมาได้ครบ
ต้องชื่นชม ทอม วอลเลอร์ นักแสดง และทีมงานที่ได้สร้างสรรค์หนังเรื่องนี้ เล่าเรื่องตามความเป็นจริงตามลำดับเหตุการณ์และไม่บิดเบือนไปจากความจริง และยังเป็นหนังที่พูดถึงระบบราชการไทยที่มีข้อบกพร่องอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อราชการ การขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และอื่น ๆ
เพราะการทำหนังที่มาจากเรื่องจริงและคนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก การทำหนังเรื่องนี้ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้คนดูสามารถอินกับเหตุการณ์นี้อีกครั้ง แต่ในความเป็นจริง The Cave ก็ยังไม่ใช่หนังที่นำเสนอปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง ที่ทำให้คนดูรู้สึกอินขนาดนั้น เนื่องจากการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วจนเกินไป เหตุการณ์บางช่วงเวลาเล่าไปอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกว่าผู้กำกับอาจไม่ให้ความสำคัญในบางเหตุการณ์ แต่ไปให้ความสำคัญกับการวางแผน การค้นหา และกู้ชีพของเหล่าทหารและนักดำน้ำซะมากกว่า ซึ่งตรงนี้สามารถเล่าได้เข้าใจพอสมควร
ข้อด้อยอีกอย่างหนึ่งของ The Cave ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คือ เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่สื่อวิทยุกระจายเสียง สื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ทั้งในไทยและทั่วโลก ได้มีการนำเสนอข่าว และสารคดีข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตทีมหมูป่าเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ชมอาจจะได้รับข้อมูล เรื่องราวของเหตุการณ์นี้ไปบ้างแล้ว ทำให้คนดูบางกลุ่มอาจจะไม่ไ้ด้อิน หรือไม่จำเป็นต้องไปดูหนังเรื่องนี้ก็ได้
แต่สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ คือ การนำบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์จริงอย่าง จิม วาร์นีย์ นักดำน้ำจากเบลเยี่ยม ที่เชี่ยวชาญในการดำน้ำในที่แคบ และ ผู้ใหญ่ตั้น บ้านแหลม จากเพชรบุรี ผู้ที่นำเครื่องสูบน้ำ Turbo jet มาช่วยสูบน้ำออกจากถ้ำ ซึ่งทั้ง 2 ก็สามารถถ่ายทอดการแสดงได้ออกมาสมจริงอย่างที่เราเห็นในภาพข่าว (ยังมีอีก 1 บุคคลในเหตุการณ์จริง แต่ผู้เขียนขอไม่บอก ให้ผู้อ่านไปดูกันเอง)
The Cave เป็นหนังที่มีการถ่ายทอดออกมาในรูปแบบคล้ายๆหนังสารคดี มีการนำภาพข่าวมาใช้ในหนังเรื่องนี้สลับกับภาพจากหนัง เพื่อความสมจริง รวมทั้งการถ่ายทำในถ้ำเพื่อให้คนดูรู้สึกถึงความแคบ ความกดดัน ในการช่วยเหลือ 13 ชีวิตในถ้ำหลวงของนักดำน้ำ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น The Cave อาจจะเป็นหนังที่บางคนชอบ บางคนอาจจะเฉย ๆ แต่ถ้าผู้อ่านอยากทบทวนความทรงจำเหตุการณ์นี้ในรูปแบบภาพยนตร์ ผู้เขียนก็อยากเชิญชวนให้ลองไปดูกัน เพราะเชื่อว่า ผู้กำกับ ทีมงาน และนักแสดง มีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และ เหตุการณ์นี้ให้สมจริงในรูปแบบจอภาพยนตร์