ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันนี้ (3 พ.ย. 62) แฟนเพจเฟสบุ๊ค "รับน้องสร้างสรรค์ระดับโครตมหากาฬ" ได้เปิดเผยพาพแชทไลน์ผู้ปกครองของนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ รายหนึ่ง ที่ระบุถึงพฤติกรรมของรุ่นพี่ที่ทำกิจกรรมรับน้อง พร้อมด้วยภาพของหลานชายที่มีรอยฟกช้ำ บริเวณแผ่นหลัง พร้อมระบุว่ารับไม่ได้กับการทำกิจกรรมรับน้องที่เกินกว่าเหตุของรุ่นพี่
โดยเจ้าของข้อความ ระบุว่า หลานชายของตนถูกทำร้ายร่างกายทุกสัปดาห์ แถมยังมีคนถูกทำร้ายจนขาหัก จากการโดนไม้หน้าสามห่อผ้าฟาด และก็มีการนำก้านกล้วยฟาดกลางหลัง ระหว่างการทำกิจกรรมอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ปกครองอีกราย ที่ระบุว่า ลูกชายถูกรับน้องในลักษณะเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า ลูกชายของตนเป็นอีกเคสที่เกิดขึ้นจากการรับน้องในมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งได้เรียนที่ สาขาประมง ทรัพยากรทางน้ำ โดยร่องรอยของการถูกทำร้ายนั้นมีรอยแดง จากการถูกรุ่นพี่ที่ตีด้วยมืออย่างรุนแรง
ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบข้อมูลจากลูกชายว่า รุ่นพี่ได้มีการทำกิจกรรมรับน้องที่เรียกว่า 7 วันอันตราย ซึ่งจัดขึ้นหลังจากมหาวิทยาลัยเปิดเทอม ซึ่งลูกชายก็ทนทำกิจกรรมจนผ่านมาได้ แต่หลังจากนั้นทางรุ่นพี่ก็ยังมีการจัดกิจกรรมรับน้องอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ และเห็นว่ากิจกรรมที่ทำนั้นมีความรุนแรง ทารุณรุ่นน้อง จึงได้เอามาเล่าให้ผู้ปกครองคนอื่นฟัง เพราะก่อนทำกิจกรรมทางรุ่นพี่ได้ให้รุ่นน้องสาบานว่า จะไม่เอาเรื่องราวการจัดกิจกรรมนั้นไปเผยแพร่ให้ใครทราบ แม้กระทั่งผู้ปกครอง
แต่เนื่องจากลูกชายของตนทนไม่ไหวจึงเอามาเล่า พร้อมทั้งได้มีการส่งภาพร่องรอยที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายให้ดูด้วย โดยได้ส่งภาพมาเมื่อค่ำคืนเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค.62 ที่ผ่านมา
เมื่อเห็นภาพ ก็ถึงกับตกใจว่า ทำไมที่มหาวิทยาลัยดังกล่าวจึงมีการจัดกิจกรรมรับน้องที่รุนแรง จากนั้นจึงได้ตัดสินใจนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ในช่วงเช้าของวันที่ 5 ต.ค.62 ที่ผ่านมา แต่ทางตำรวจ แจ้งว่าการดำเนินการดังกล่าวจะต้องไปพูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยเสียก่อน จึงจะสามารถดำเนินการกับคนที่กระทำความผิดได้ และเมื่อตนได้เข้าไปพูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น จึงได้มีการตัดสินใจนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโพสต์ เพื่อเรียกร้องให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ว่าทางมหาวิทยาลัยนั้นจะมีการติดป้ายว่าไม่ส่งเสริมให้มีการรับน้องรุนแรง หรือไม่สร้างสรรค์แล้วก็ตาม แต่ก็มีรุ่นพี่บางกลุ่มยังละเมิดกฎและแอบเอารุ่นน้องไปทำกิจกรรมในที่ลับตาคน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตนได้ทราบจากลูกชายมาทั้งหมด
ขณะเดียวกันหลังจากเกิดเรื่องและผ่านมาถึงตอนนี้ก็ยังพบว่าไม่มีความคืบหน้า และตนจึงได้ตัดสินใจให้ลูกชายทำการยื่นใบลาออกกับทางมหาวิทยาลัยแล้วด้วย เพราะกลัวว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็จะมีผลกระทบกับลูกชาย แม้ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะถือเป็นธรรมเนียมที่รุ่นพี่ถือปฎิบัติกันมาต่อเนื่องก็ตาม แต่ตนก็เห็นว่ามันเป็นการกระทำที่รุนแรงและทารุณมากเกินไป และแม้ว่าจะมีนักศึกษาที่ทนได้ก็ตาม โดยตอนแรกตนนั้นสนับสนุนให้ลูกชายเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากลูกชายตั้งใจจะมาเรียนที่สาขานี้ อีกทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ลูกชายได้โควต้าด้วย แต่สุดท้ายกลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ จึงทำใจยอมรับไม่ได้ ส่วนการดำเนินการนั้นยังคงรอทางมหาวิทยาลัยเซ็นอนุมัติการยื่นใบลาออกอยู่ และต้องยอมให้ลุกชายดรอปเรียนไป 1 ปี จากนั้นจึงจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอื่นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนอยากให้ทางมหาวิทยาลัยมีการตรวจสอบและแก้ไขกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักศึกษาที่ตั้งใจเข้ามาเรียนอีกในอนาคตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าล่าสุด ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทางแฟนเพจเฟสบุ๊คของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยระบุว่า เรื่อง คำชี้แจงกรณีข่าวในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการทำร้ายนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้" ตามที่ สื่อต่างๆ ได้มีการเผยแพร่ภาพบทสนทนาซึ่งมีการกล่าวถึง นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ถูกทำร้ายร่างกายจากกิจกรรมรับน้อง เบื้องต้นมหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง พบว่ามีนักศึกษากลุ่มหนึ่งไปทำกิจกรรมภายนอกมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต อยู่นอกเหนือจากกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยกำหนด ซึ่งเป็นการกระทำเกิดกว่าเหตุ และเป็นความผิดที่มหาวิทยาลัยห้ามโดยเด็ดขาดมีโทษทางวินัยนักศึกษา
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอชี้แจงว่า ไม่มีนโยบายให้จัดกิจกรรมรับน้องนอกเหนือจากที่มหาวิทยาลัยกำกับดูแล และการจัดกิจกรรมต่างๆ มหาวิทยาลัยกำหนดให้ต้องมีเจ้าหน้าที่ หรืออาจารย์ ควบคุมดูแลในทุกกิจกรรม "หากมีการกระทำนอกเหนือจากที่มหาวิทยาลัยกำหนด ถือว่ามีโทษทางวินัยนักศึกษา ผู้กระทำผิดจะถูกตัดคะแนนความประพฤติ พักการศึกษา หรือไล่ออก ซึ่งได้ออกประกาศในมาตรการการควบคุมดูแลการพัฒนานักศึกษา และบทลงโทษที่ชัดเจน"
มหาวิทยาลัยขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างสูงกับนักศึกษาและครอบครัวผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม "มหาวิทยาลัยจะเร่งดำเนินการจัดการผู้กระทำความผิดตามมาตรการควบคุมดูแลการพัฒนานักศึกษา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายโดยเร็วที่สุด"