ขณะที่ทุกคนกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก เมื่อหายใจเข้าไป หลายคนมีอาการแสบจมูก และลำคอ จึงได้มีการแชร์กันทั่วโซเชียลว่าการทาปิโตรเลียม เจลลี่นั้น ช่วยดักจับฝุ่น PM 2.5 ได้ ....เป็นเรื่องไม่จริง
เหตุผลคือ ปิโตรเลียม เจลลี่ (Petroleum jelly) เป็นสารที่เป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ (Petroleum) ซึ่งเมื่อนำไปผ่านกระบวนการกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตราย เช่น สารในกลุ่ม Polycyclic aromatic hydrocarbon (PAHs) ออกไปแล้วก็สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ไม่ละลายน้ำจึงเคลือบผิวมิให้น้ำระเหยออกไปสาวๆจึงนิยมนำมาใช้ทาผิวเพื่อป้องกันผิวแห้ง
พญ.ณิชา สมันตรัฐ แพทย์ธรรมชาติบำบัด อธิบายว่า “ปิโตรเลียมเจลลี่” (petroleum jelly) หรือที่ในฉลากอาจจะใช้คำอื่นๆ ที่ต่างออกไป เช่น ปิโตรลาทัม (Petrolatum), ไวท์ ปิโตรลาทัม (White Petrolatum), มิเนรัล ออยล์ (Mineral Oil), พาราฟินเหลว (Liquid Paraffin) หรือน้ำมันพาราฟิน (Paraffin Oil) ซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นอนุพันธ์ผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบในโลก โลกสินค้าความงามได้นำเอาปิโตรเลียมเจลลี่มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะผ่านกระบวนการกลั่นสารตกค้างต่างๆ ออกก่อนนำมาใช้ โดยในช่วงยุค 1880 เริ่มมีการนำปิโตรเลียมเจลลี่มาใช้อย่างแพร่หลายในอเมริกา เพราะมีราคาถูกและนำมาแปรรูปได้หลายผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่โลชั่นไปถึงผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กแรกเกิด แน่นอนว่าหากไม่ได้มีกรรมวิธีการสกัดมาอย่างบริสุทธิ์มากเพียงพอแล้ว มันจะมีผลร้ายแรงชนิดที่เราอาจคาดไม่ถึง
แม้มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื่น ทำหน้าที่คล้ายฟิล์มที่เคลือบผิว แต่การเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำและไม่หลุดออกง่าย ก็จะทำให้สิ่งตกค้างและแบคทีเรียโดนล็อกอยู่ในผิว ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ ที่สำคัญไม่ได้เป็นสารที่ทำให้เกิดความชุ่มชื่นด้วยตัวเอง จึงไม่ได้มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวแต่อย่างใด
ด้านกระทรวงสาธารณสุข ชี้ว่า การนำมาทาจมูก และทาในรูจมูกเพื่อหวังผลในการดักจับฝุ่น PM 2.5 นั้น ยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ ดังนั้นการป้องกันฝุ่นควรพิจารณาให้สวมหน้ากากอนามัย และหน้ากาก N95
ก่อนเชื่ออะไรควรเช็กให้มั่นใจก่อนว่าข้อมูลเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
ย้ำอีกครั้ง สำหรับ วิธีการป้องกันฝุ่น PM2.5 คนที่แข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว หากเดินออกไปพื้นที่กลางแจ้ง ไม่นานความเสี่ยงน้อย อาจสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดในระยะยาว
ส่วนคนที่ต้องอยู่กลางแจ้งนานๆหรือไม่โรคทางเดินหายใจเช่นภูมิแพ้หอบหืดถุงลมโป่งพองควรงดกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกนอกสถานที่เท่าที่จำเป็นและสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นเช่น N95 ถ้าต้องการใช้ ควรใช้ในระยะเวลาสั้น ๆ