สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบการกระทำผิดกฎจราจรและออกใบสั่งเพิ่มขึ้นถึงกว่า 3,200,000 ครั้ง ขณะเดียวกันยังพบว่ามีผู้ขับขี่ ที่มีใบสั่งซ้อนสูงสุด 144 ใบ ในหนึ่งปี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้ประชุมหาแนวทาง ในการปรับปรุงกระบวนการบังคับใช้กฎหมายจราจร หลังจากพบว่า ในปี 2561 มีผู้ขับขี่รถในประเทศไทยที่กระทำผิดกฎจราจรและออกใบสั่งเพิ่มขึ้นจากปี 2560 กว่า 3,200,000 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 39
ขณะเดียวกันยังพบว่า มีคนไทยที่มีใบสั่งซ้อนสูงสุด 144 ใบ ในระยะเวลา 1 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นรถขนส่งของภาคเอกชนวิ่งขนส่งของทั่วประเทศ และ รถขนส่งสาธารณะ ซึ่งถูกกล้องตรวจจับการกระทำความผิดอัตโนมัติ ในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และ รถบรรทุกไม่ขับชิดขอบทางด้านซ้าย นอกจากนี้ยังพบว่าในระยะเวลา 4 ปี มีผู้ขับขี่ที่เมาแล้วขับโดนจับซ้ำ 1,507 ราย
พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา ในฐานะคณะทำงานแก้ไขปัญหาการจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตัวเลขที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงกลไกการบังคับใช้กฎหมายของบ้านเราที่ยังเข้มแข็งไม่พอ เลยทำให้ผู้ขับขี่ละเมิดกฎหมายบ่อยครั้ง ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุบนทางถนน ทั้งนี้เชื่อว่าหากมาตราการตัดคะแนนความประพฤติ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับใหม่บังคับใช้ได้จริง จะสามารถเปลี่ยนแปลงให้ผู้ขับขี่ละเมิดกฎหมายน้อยลง และ ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ส่วน กรณีที่พบว่า มีผู้ขับขี่เมาแล้วขับถูกจับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทางรองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพยายามผลักดันให้มีโทษจำคุกจริงๆหรือมีมาตรการในเรื่องของการคุมประพฤติหรือพัฒนาในการอนุญาตขับรถอย่างเข้มงวดในอนาคต และถ้าเป็นไปได้ก็เตรียมที่จะผลักดันกรณีเมาแล้วขับคนในรถน่าจะมีความผิดด้วย