svasdssvasds

วาฬเกยตื้นตายอีกแล้ว ผ่าพบขยะพลาสติกอัดแน่นในท้องกว่า 40 กิโลกรัม

วาฬเกยตื้นตายอีกแล้ว ผ่าพบขยะพลาสติกอัดแน่นในท้องกว่า 40 กิโลกรัม

พบวาฬเกยตื้นอีกแล้ว ที่เกาะทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ หลังวาฬเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ผ่าซากดู พบขยะพลาสติกราว 40 กิโลกรัม เต็มท้อง

เฟซบุ๊กแฟนเพจพิพิธภัณฑ์ ดีโบนคอลเลคเตอร์ ของฟิลิปปินส์ (D' Bone Collector Museum Inc.) เปิดเผยภาพซากวาฬคูเวียร์ ที่มาเกยตื้นที่หาดบนเกาะทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ มีอาการอ่อนแอและอาเจียนเป็นเลือด ก่อนเสียชีวิตลงในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

 

โดยทางด้าน ดาเรลล์ แบลทช์เลย์ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ ดีโบนคอลเลคเตอร์ในเมืองดาเวา นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและนักชีววิทยา ได้ถูกเรียกตัวโดยกรมประมงของฟิลิปปินส์ให้มาช่วยเหลือวาฬดังกล่าว ขณะที่ต่อมาเมื่อวาฬเสียชีวิตลง เขาและทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย พบขยะพลาสติกมากถึง 40 กิโลกรัมในระบบย่อยอาหารของวาฬ ในนั้นมีถุงข้าว 16 ถุง และถุงพลาสติกจำนวนมาก ซึ่งทางพิพิธภัณ์จะมีการระบุขยะพลาสติกเหล่านี้บนหน้าเพจต่อไป

 

 

แบลทช์เลย์ กล่าวว่า บางส่วนของถุงพลาสติกในท้องวาฬเริ่มแข็งตัว แสดงว่าน่าจะอยู่ในท้องวาฬมานานนับเดือนหรืออาจเป็นปีแล้ว และภายใน 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพบวาฬและโลมาที่เผชิญปัญหาเดียวกันในอ่าวดาเวาถึง 61 ตัว ไม่ว่าจะเป็นการมีพลาสติก ตาข่ายจับปลา หรือขยะอย่างอื่นในระบบย่อยอาหาร ซึ่งในจำนวนนั้น 4 ตัว กำลังตั้งท้องด้วย และปีนี้ปีเดียว ก็พบวาฬและโลมามีพลาสติกในท้อง 3 ตัวแล้ว

 

 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตขยะพลาสติกมากที่สุดในโลก ตามข้อมูลสหประชาชาติระบุว่าแต่ละปีมีขยะพลาสติกลงสู่ทะเลถึง 9 ล้านตัน และกว่าครึ่งหนึ่งมาจาก 5 ประเทศในเอเชีย คือ จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม ขณะที่สภาเศรษฐกิจโลกระบุว่า ขณะนี้มีขยะพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลกถึง 150 ล้านตัน และภายในปี 2050 คาดว่าจะมีปริมาณขยะพลาสติกมากกว่าปลาในทะเล นอกจากนี้ในประเทศไทยยังนับ วาฬคูเวียร์ เป็นสัตว์สงวนและคุ้่มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ของประเทศไทยอีกด้วย

 

 

ขอบคุณภาพจาก : D' Bone Collector Museum Inc.

related