ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากกรณีกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลปัตตานี(วัดนพวงศาราม) อ.เมืองปัตตานี ได้ร่วมตัวกันเพื่อเรียกร้องต่อผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี หลังจากที่นักเรียนหญิง ที่เป็นมุสลิมหลายราย ได้สวมผ้าคลุมผม หรือ ฮีญาบ มาโรงเรียน แต่ปรากฏว่า ครูโรงเรียนอนุบาลที่เป็นไทยพุทธ ได้นัดรวมตัวกันเพื่อหยุดการเรียนการสอน พร้อมทั้งปิดห้องเรียน เพื่อแสดงเจตนารมว่าไม่เห็นด้วยกับการคลุมฮีญาบ มาเรียนหนังสือของเด็กนักเรียน โดยอ้างว่า พื้นที่ของโรงเรียน เป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์ ไม่เหมาะสมกับการคลุมฮีญาบ ทำให้เด็กนักเรียนไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน และร้องไห้เมื่อต้องไปโรงเรียน เพราะถูกครูและบุคลากรของโรงเรียน มีการต่อว่าในการคลุมฮีญาบ ทางผู้ปกครองจึงได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้เด็กนักเรียนสามารถแต่งกายแบบอย่างมุสลิมเข้าเรียนหนังสือเฉกเช่นกับโรงเรียนของรัฐต่าง ๆ ที่อนุญาตให้เด็กสามารถแต่งกายแบบอย่างอิสลามได้
โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 พ.ค. ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี บรรดาผู้ปกครองต่างรวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเพื่อเรียกร้องให้ทางโรงเรียนได้อนุญาตให้เด็กสามารถแต่งกายตามแบบอย่างของอิสลาม โดยการคลุมฮีญาบเข้าเรียนได้ แต่ปรากฏว่า ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้กับทางผู้ปกครองและผู้สื่อข่าวเข้าไปในโรงเรียน โดยกล่าวอ้างว่าในขณะนี้ทาง นายประจักษ์ ชูศรี ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วย นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี คณะสงฆ์ และผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 15 ท่าน ได้ร่วมกันเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
จนกระทั้งเวลา 11.30 น. ทางด้าน นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางออกจากห้องประชุม พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว่า ในการประชุมในครั้งนี้ เสียงข้างมากไม่เห็นด้วยในการแก้ระเบียบให้นักเรียนมุสลิม สามารถแต่งกายตามแบบอย่างศาสนาอิสลามได้ เพราะต้องมีการแก้กฎข้อระเบียบหลายอย่าง แต่ในฐานะผู้นำศาสนา ก็ต้องหาทางออกให้ดีที่สุด และยังคงสนับสนุนให้เด็กนักเรียนมุสลิมแต่งกายตามแบบอย่างของศาสนาอิสลาม แต่ด้วยกฎระเบียบของโรงเรียน ทำให้ต้องหาทางแก่ไขปัญหากันต่อไป
ด้านนายวันอิดริส หะยีเยะ ผู้ปกครองนักเรียน เปิดเผยว่า การร้องเรียนให้เด็กนักเรียนมุสลิมแต่งกายตามแบบอย่างอิสลาม มีมาตั้งนานแล้วครับ แต่ในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ทางผู้ปกครอง รวมตัวกันขออนุญาตจากทางโรงเรียนให้เด็กนักเรียนผู้หญิงสามารถคลุมฮีญาบ และนักเรียนชาย ใส่กางเกงขายาวได้ แต่หลังจากเปิดภาคเรียนเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีนักเรียนแต่งกายตามแบบอย่างศาสนาอิสลาม ปรากฏว่า มีปฏิกิริยาจากครูและบุคลากรของโรงเรียน ไม่เห็นด้วยกับการคลุมฮีญาบเข้ามาเรียน ซึ่งทางผู้ปกครองไปสอบถามกับผอ.โรงเรียน ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีข้อบังคับในการห้ามไม่ให้เด็กคลุมฮีญาบมาโรงเรียนแต่ก็ไม่สามารถทำลายลักษณ์อักษรให้อนุญาตได้ เนื่องจากติดข้อบังคับจากวัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน หรือธรณีสงฆ์ ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดให้มีประชุมกันในวันนี้ และค่อนข้างชัดเจนว่า ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนคลุมฮีญาบเข้ามาในโรงเรียน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ที่ลูกสาวตนได้คลุมฮีญาบมาโรงเรียน ก็ได้ถูกเพื่อนล้อเลียน ในขณะที่ครูเองซึ่งเป็นครูประจำชั้น ก็มีการประท้วงโดยการไม่มาสอน ทำให้เด็กต้องหยุดการเรียนการสอนทั้งวัน
ในขณะที่ทางด้าน น.ส.งามศุกร์ รัตนเสถียร อาจารย์ประจำสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล ซึ่งได้เดินทางมาสังเกตการณ์ ได้เปิดเผยว่า คงจะต้องมีการคุยกันระหว่างผู้ปกครองของเด็กและโรงเรียน ซึ่งครูเองก็ไม่ควรที่จะวอร์คเอ๊าต์ ตามที่เกิดกระแสขึ้นมา ควรหาทางออกร่วมกัน ว่าความหมายของธรณีสงฆ์ เป็นอย่างไร แล้วทำไมถึงเป็นข้อเป็นห่วงกังวลของชาวพุทธที่นี้ มันละเมิดอย่างไร เราในฐานะที่จะต้องอยู่ร่วมกัน ทางออกก็คือมาคุยกัน และอะไรที่ยืดหยุ่นได้ก็ความจะทำ เพราะในพื้นที่เองก็เซนต์ซิเทฟ พอแล้วในเรื่องศาสนา
ล่าสุด ทาง นายประจักษ์ ชูศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ โดยทางที่ประชุม ยืนยันให้นักเรียนแต่งกายตามแบบที่โรงเรียนกำหนด ซึ่งไม่อนุญาตให้มีการคลุมฮีญาบ สำหรับนักเรียนหญิง และ สวมกางเกงขายาว สำหรับนักเรียนชาย เพราะถือว่าผิดระเบียบของโรงเรียน
ภาพ/ข่าว สุไลมาน แวมามะ ผู้สื่อข่าวทีนิวส์ จ.ปัตตานี