svasdssvasds

"คำนูญ" โพสต์เฟซบุ๊ก แจงผลประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฯ นัดแรก ชี้ต้องพิจารณาแก้ไขหลายประเด็น

"คำนูญ" โพสต์เฟซบุ๊ก แจงผลประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฯ นัดแรก ชี้ต้องพิจารณาแก้ไขหลายประเด็น

กรรมการพิจารณาาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ โพสต์ แจงผลการประชุมนัดแรก เมื่อวานนี้ ระบุต้องพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจฯ อาจดำเนินการพิจารณาร่างขึ้นใหม่ทั้งฉบับ โดยต้องรอข้อเสนอจากองค์กรและหน่วยงานต่างๆ มาประกอบการพิจารณาด้วย

นายคำนูญ สิทธิสมาน กรรมการปฏิรูปกฎหมาย ในฐานะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... ที่มี นายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธาน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าวถึงการประชุมพิจารณา พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว โดยมีใจความว่า คณะกรรมการชุดนี้ จะไม่ได้ทำหน้าที่เพียงพิจารณา ร่างกฎหมายที่ส่งมาจากคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุด พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เท่านั้น แต่จะพิจารณาให้ครอบคลุมสารัตถะที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปตำรวจทั้งหมด เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดให้สมกับที่ประชาชนคาดหวังและรัฐธรรมนูญกำหนดไว้

ซึ่ง คณะกรรมการชุดนี้ตั้งขึ้นตามกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และจะมีการประชุมเร่งด่วนแบบต่อเนื่องทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ เวลา 16.30 - 20.00 น.โดยประมาณ ณ ห้องปรีดี พนมยงค์ ชั้น 3 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และได้ประชุมนัดแรกไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 20 เมษายน

โดยในการปฏิบัติภารกิจนั้น ไม่ใช่กระทำด้วยเพียงการพิจารณาแก้ไขพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 เฉพาะบางประเด็น ตามที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเสนอมาเท่านั้น แต่อาจพิจารณายกร่างขึ้นใหม่ทั้งฉบับ รวมทั้งแก้ไขกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ด้วยก็ได้ ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จพร้อมกันในคราวเดียวหรือ เริ่มต้นเลือกเฉพาะประเด็นสำคัญ ก็สามารถทำได้ เพื่อตอบโจทย์ เกี่ยวกับ ความทุกข์ของประชาชน ทั้งที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และความคาดหวังที่ต้องการจากตำรวจ และ ความทุกข์ของตำรวจ ที่อาจไม่ใช้เพียงความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่เติบโตไปตามสายงานได้อย่างปกติ และความไม่พร้อมหรือขาดแคลนในด้านต่าง ๆ

และในการตอบโจทย์ดังกล่าว ก็ต้องมีการพิจารณาผ่าน กรอมที่นายกรัฐมนตรีเคยคิดไว้ อาทิ โครงสร้าง ทั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการถ่ายโอนภารกิจที่ไม่เกี่ยวกับงานตำรวจแท้ออกไปให้หน่วยงาน , อำนาจสอบสวน ควรอยู่กับตำรวจเต็มเหมือนเดิม หรือควรมีหน่วยงานอื่นมาร่วมในกระบวนการด้วย , การแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึงการแต่งตั้ง ผบ.ตร. จะต้องกำหนดกฎเกณฑ์การพิจารณาไว้ให้ชัดเจนในกฎหมายหลัก ไม่ใช่อยู่แต่ในกฎหมายลำดับรองหรืออนุบัญญัติเท่านั้น โดยจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะให้มาจากหลักอาวุโสเป็นสัดส่วนเท่าไร รวมทั้งจะต้องบัญญัติกฎเกณฑ์ของการคิดคำนวณหลักอาวุโสที่มิใช่อาศัยเพียงเกณฑ์อายุไว้ให้ชัดเจนในกฎหมายหลักด้วย , ความพร้อมในการทำหน้าที่ของตำรวจ ที่ยังขาดแคลนงบประมาณและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ , ระบบนิติวิทยาศาสตร์ ที่ควรขึ้นตรงต่อตำรวจ หรือเป็นอิสระในระดับหนึ่ง และควรมีกี่หน่วย โดยพิจารณาถึงโอกาสที่จะได้รับความเป็นธรรมสูงสุดของประชาชน และ สวัสดิการ ซึ่งจะรวมถึงระบบร้องเรียน ร้องทุกข์ ภายในของตำรวจเองด้วย

ทั้งนี้การพิจารณาดังกล่าวจะต้องมีการนำข้อเสนอจากองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้ศึกษาและเสนอไว้แล้วประกอบด้วย

related