ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
นอกเหนือจากการเร่งพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและสร้างกาไรได้ตามเป้าหมายบริษัทบนสมรภูมิทางธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงแล้ว สิ่งหนึ่งที่โลกธุรกิจมองข้ามไม่ได้คือ “สิ่งแวดล้อม” และ “การคืนกำไรให้สังคม” ซึ่งจะทาให้ธุรกิจเติบโตยั่งยืนอย่างแท้จริง และนั่นก็คือ วิสัยทัศน์ของ “คุณธำรง มหาดารงค์กุล” ผู้นำด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ของเมืองไทย ที่เล็งเห็นความสาคัญของ CSR และมุ่งมั่นตอบแทนสังคมอย่างจริงจังเสมอมากว่า 50 ปี
วันที่ 21 ก.พ.61 คุณธำรง มหาดารงค์กุล รองประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คอสโม กรุ๊ป จากัด (มหาชน) และบริษัท ไพร์มบ็อกซ์ เอ็มเอฟจี จากัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา บริษัท ไพร์มบ็อกซ์ เอ็มเอฟจี จากัด ได้ดำเนินงานโครงการ CSR หรือ กิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นว่า ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ต้องเติบโตไปพร้อมๆ กับสังคมที่ดี โดยบริษัทฯ ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านกิจกรรม CSR หลากหลายด้าน โดยเน้นการมีส่วนร่วมในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ การลดใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อน นอกเหนือจากนั้น ยังสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนบริเวณโรงงาน รวมไปถึงความอยู่ดีกินดีของพนักงานภายในโรงงาน อาทิ การปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชน การเลี้ยงอาหารให้กับเด็กที่เนอร์สเซอร์รี จัดกิจกรรมทาบุญให้พนักงาน บริจาคเงินสร้างวัด บริจาคของใช้จำเป็นให้กับโรงเรียนและโรงพยาบาล อีกทั้งยังจัดพื้นที่ในโรงงานเพื่อปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ให้พนักงานสามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอีกด้วย
บริษัทพัฒนาแผน CSR มาจากการรวบรวมข้อมูลจากชุมชน ผ่านการเสวนาร่วมกันระหว่างโรงงานกับคนในชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาทำเป็นแผนพัฒนาชุมชนให้มีวิถีชีวิตที่ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การปรับปรุงพื้นที่ การสร้างทักษะ การสร้างงานสร้างรายได้ ฯลฯ ซึ่งจะทาให้บริษัทเกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนอย่างยั่งยืนอีกด้วย แต่ทว่า ความท้าทายคือการทากิจกรรม CSR ภายใต้ความแตกต่างของวัฒนธรรมและความคาดหวังต่อ CSR ดังนั้น เราจึงต้องมีการวิเคราะห์ถึงความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งภายในและภายนอก เพื่อนำมาจัดทาแผนดำเนินงานให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยในอนาคตบริษัทฯ คาดหวังว่า จะสามารถขยายผลไปสู่กิจกรรม CSR ของเราทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ
แผน CSR ของบริษัทยังใส่ใจในด้านการลดผลปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมาก สิ่งใดที่มีผลกระทบต่อชุมชนรอบข้างพื้นที่โรงงาน เช่น ความสว่าง ระดับเสียง ความร้อน สารเคมี มลพิษ ฯลฯ เป็นหน้าที่ที่เราจะต้องวางแผนการดำเนินงานเพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น โดยได้นำหลักธรรมภิบาลมาใช้เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่กับการป้องกันปัญหามลพิษและความปลอดภัย ภายใต้แนวความคิดการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่โรงงาน อีกทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทั้งพืชและสัตว์ รวมถึงพนักงาน แรงงานที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงงานด้วย
สิ่งที่บริษัทได้ริเริ่มทำในปีที่ผ่านมาก็คือ การสร้างความตระหนักในการลดการใช้พลังงาน เนื่องจากกระแสพลังงานเริ่มมีบทบาทและมีความสำคัญกับชีวิตประจาวันทั้งต่อภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เรียกได้ว่า ทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ทางบริษัทฯ ได้จัดพิธีเปิดโครงการ “Solar PV Rooftop” บนหลังคา เพื่อรับมอบงานติดตั้งแผงโซล่าร์ รูฟจากบริษัท นอร์ติส ไรซ์ จำกัด ขนาด 198.45 กิโลวัตต์ คาดว่า จะได้รับการประหยัดพลังงาน 277,195 KWh/ปี หรือลดค่าไฟฟ้าได้ 1,166,900 บาท/ปี และสามารถลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ 136,317 กิโลกรัมคาร์บาร์ไดออกไซด์/ปี นอกเหนือไปจากนั้น บริษัทฯ ยังมีการดาเนินงานตามระบบการจัดการพลังงานตามกฎหมายเป็นประจาทุกปี โดยได้มีการจัดทามาตรการอนุรักษ์พลังงานในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องจักรอุปกรณ์ ได้แก่
- มาตรการเปลี่ยนการใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ TB ขนาด 36W มาใช้หลอด LED ขนาด 18W สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ 495,573 KWh/ปี หรือลดค่าใช้ไฟฟ้าลงได้ 2,086,362 บาท/ปี ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 278,016 KgCO20/ปี
- มาตรการติดตั้ง Inverter ควบคุมเครื่องดูดฝุ่นเพื่อลดการใช้พลังงานในช่วงที่เกินความจำเป็นสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ 80,072 KWh/ปี หรือลดค่าใช้ไฟฟ้าลงได้ 374,993 บาท/ปี ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 49,969 KgCo20/ปี
- มาตรการตรวจสอบการลดจุดลมรั่วเพื่อลดการสูญเสียในระบบอัดอากาศ ซึ่งวิสัยทัศน์อันแยบยลทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างธุรกิจของคุณธำรงค์ให้เติบโต แต่ยังมีสังคมที่ดีก้าวเดินไปข้างพร้อมกันอย่างยั่งยืนอีกด้วย