เทคนิคการพูด เมื่อต้องเจอเพื่อนร่วมงานอีโก้สูง มนุษย์มั่นใจตัวเองขั้นสุด
ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับ อีโก้ (Ego) ก่อนว่า คือความมั่นใจที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความเชื่อที่มีต่อตัวเอง ซึ่งบางครั้งเรามองว่าคนอื่นมีมากไป แต่จริงๆแล้วตัวเราเองก็อาจจะมีเช่นกัน พร้อมแนะนำทริกหรือเทคนิคการพูดคุยกับ "เพื่อนร่วมงานอีโก้สูง"
เชื่อว่า working human หลายๆคนก็คงจะต้องเคยเจอไม่มากก็น้อย ที่ต้องทำงานร่วมกับคนที่มีฝีมือ มีความมั่นใจสูงมากๆ เชื่อมั่นในตัวเองอย่างสุดๆ คุยงานด้วยยาก ไม่ฟังอะไรใครเลย รู้ทุกอย่าง ทำให้บางครั้งเหมือนดูถูกคนอื่น ไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรให้ถูกต้องและดีที่สุดใช่ไหม บทความนี้จะมาบอกวิธีการรับมือกับคนประเภทนี้แบบเนียนๆ ให้ถูกใจทั้งตัวเราแหละอีกฝ่าย
ทำความรู้จักกับ Ego (ที่อาจจะมีอยู่ในคนอื่นและตัวเราเองด้วย)
Ego หรือ อีโก้ คือตัวตนที่เราสร้างขึ้นมาจากความเชื่อที่มีต่อตัวเอง เช่น ความเชื่อว่านิสัยเราเป็นแบบไหน ชอบอะไร เก่งแค่ไหน คนมักมองอีโก้ว่าเป็นสิ่งที่แย่ แต่อีโก้ก็เป็นแค่มุมมองอย่างหนึ่ง มีทั้งผิดและถูก เป็นตัวช่วยให้เราเข้ากับสังคมได้ง่ายขึ้น เพราะมันทำให้เราหลอมรวมกับสิ่งที่สังคมคิดว่าเราเป็นอยู่ แต่ปัญหาจะเกิดเวลาที่ตัวตนที่เราคิดว่าเราเป็นอยู่ มันไม่เหมือนกับตัวตนที่เราเป็นจริงๆ เราอาจจะมองว่าตัวเองแย่เกินไปหรือดีเกินไปก็ได้
และคำว่า "อีโก้สูง" ก็หมายถึงการเชื่อมั่นในตัวเองและวิธีการในการมองโลกของตัวเอง ความเชื่อที่ตัวเองยึดถือ ตลอดจนการยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเองจนเกินไป ลักษณะของคนที่มีอีโก้สูง ก็จะเป็นคนที่จมอยู่กับความคิดและการยึดติดของตนเอง และมักจะเลือกที่จะไม่รับฟังความคิดเห็นของคนที่เห็นต่างออกไป จนทำให้เกิดความขัดแย้งกับคนอื่นขึ้นได้
“Practice active listening: ฝึกการฟังอย่างกระตือรือร้น”
เมื่อต้องรับมือกับคนที่มีอีโก้สูง การฟังสิ่งที่พวกเขาพูดอย่างตั้งใจเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น หากเพื่อนร่วมงานของคุณพูดถึงความสำเร็จของพวกเขา ไม่ควรไปขัดจังหวะและเน้นไปที่การทำความเข้าใจมุมมองของเขาแทน
Use “I” statements : ลองใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย“ตัวเอง”
แทนที่จะเริ่มประโยคด้วยคำว่า “คุณ” ให้ลองใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “ฉัน” เพื่อแสดงความคิดและความรู้สึกของคุณ เช่น แทนที่จะพูดว่า “เธอไม่เคยฟังความคิดของฉันเลย” ให้ลองพูดว่า “ฉันรู้สึกเหมือนว่าไม่ค่อยมีใครฟังสิ่งที่ฉันพูดเลย”
“Ask open-ended questions: ถามคำถามปลายเปิด”
ทริกคือกระตุ้นให้คนที่มีอีโก้สูง ๆ อธิบายความคิดและแนวคิดของตนอย่างละเอียดโดยถามคำถามปลายเปิด เช่น “คุณช่วยบอกวิธีที่คุณคิดแก้ปัญหานั้นได้ไหม” “คุณช่วยอธิบายที่คุณพูดเมื่อกี้ใหม่ได้ไหม” ทำให้เขารู้สึกว่าเราสนใจในสิ่งที่เขาพูด
“Offer support and encouragement : ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจ”
เน้นไปที่การให้การสนับสนุนและให้กำลังใจและยินดีกับความสำเร็จของคนที่อีโก้สูง เช่น ถ้าหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานของคุณภูมิใจที่ได้เลื่อนตำแหน่ง ให้เฉลิมฉลองความสำเร็จและอาจบอกว่าคุณรับรู้ว่าเขาทำงานหนักจนนำไปสู่ความสำเร็จได้
“Maintain a sense of humor: รักษาอารมณ์ขัน”
บางครั้งการใช้อารมณ์ขันสามารถช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดกับคนที่มีอีโก้สูงได้ เช่น ถ้าเพื่อนของคุณคุยอวดการออกกำลังกายครั้งล่าสุด คุณอาจจะพูดติดตลกว่า “ว้าว ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ต่อหน้านักกีฬาระดับโลก!”
“Know when to walk away : รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเดินหนี”
ถ้าการอยู่กับคนที่มีอีโก้สูงทำให้คุณเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ความคิดเริ่มจะเป็นลบแล้ว อาจเป็นการดีที่สุดที่จะตีตัวออกห่างจากความสัมพันธ์ เช่น ถ้าเพื่อนดูถูกความสำเร็จของคุณเป็นประจำ คุณอาจใช้เวลากับเพื่อนน้อยลงเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ
แล้วถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าคุณเองเริ่มมีอีโก้ที่มากเกินไป จัดการยังไงดี
สำนวนสุภาษิต ที่กล่าวใว้ว่า “จงอย่าทำตัวเอง เป็นน้ำเต็มแก้ว” อันนี้แทบใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย ทุกเพศ และทุกวัยเลยนะ
หากวันใด วันหนึ่งเราคิดว่าตัวเองเจ๋งสุด ๆ เก่งสุด ๆ แล้วนั้น วันนั้นจะเป็นเริ่มเป็นวันแห่งหายนะ ที่เราจะมีแต่ย่ำอยู่กับที่ ไม่ไปใหน โดยที่เราคิดว่า ตัวเราไปข้างหน้าอยู่
ขั้นแรกที่ต้องคิดก่อนเลยคือ คนเราทุกคนไม่มีใคร perfect ไปหมด ลองยอมรับข้อผิดพลาดเล็กน้อยๆของตัวเอง กล้าที่จะขอโทษ และยอมเราว่าครั้งนี้ตัวเราเองที่ผิด ขั้นต่อมาคือการ เชื่อใจ และกล้าให้คนอื่นทำงานแทนเราเมื่อยามจำเป็น หากมีคนรอบกาย ที่ช่วยกันทำงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ทุกคนตั้งเป้าหมายไว้ การเชื่อใจคน และเลือกคนมาทำงานแทน เลยเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เรามีเวลาว่างในการไปทำเรื่องที่เราถนัดกว่า ซึ่งอาจจะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ก็เป็นได้
ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณเองหรือเพื่อนร่วมงาน หรือใครก็ตามที่มีอีโก้ ให้นึกไว้เสมอว่า การมีอีโก้ในระดับที่พอดี ไม่สูงเกินไปจนทำร้ายคนอื่น แม้ว่าเราจะเก่งแค่ไหนโลกนี้ก็ยังมีคนที่เก่งกว่าเราเสมอ การยอมรับว่าคนเรามีความพิเศษแตกต่างกัน และวิ่งอยู่คนละลู่เพื่อให้ไปถึงจุดหมายของแต่ละคน และถ่อมตัวอยู่เสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
ต่อให้คุณมีอีโก้มากแค่ไหน คุณก็สามารถพลาดได้เหมือนกันกับคนอื่น สู้มีอีโก้แต่พอดีจะดีกว่า เมื่อเราทำพลาดขึ้นมาจะได้ไม่ต้องรู้สึกแย่กับตัวเอง ส่วนคนอื่นก็พร้อมที่จะช่วยเหลือคุณ เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งกว่าเดิม
อ้างอิงข้อมูล
บทความอื่นที่น่าสนใจ
