svasdssvasds

เยียวยาใจที่สลาย ยังไงดี? เมื่อเสียคนรัก ทำอะไรไม่ไหว แต่ต้องใช้ชีวิตต่อ

เยียวยาใจที่สลาย ยังไงดี? เมื่อเสียคนรัก ทำอะไรไม่ไหว แต่ต้องใช้ชีวิตต่อ

การสูญเสียสิ่งที่รักไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม ไม่มีใครที่จะอยากให้สิ่งนั้นมาพรากมันไปจากเรา เมื่อมีสิ่งนั้นเหมือนกับโลกทั้งใบนั้นแสนจะสุข แต่เมื่อไม่มีอยู่ โลกทั้งใบนั้นกลับมืดลงทันที วันนี้ Spring ชวนมาเยียวยาจิตใจให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าไปกับบทความนี้กันค่ะ

SHORT CUT

  • เมื่อภาวะ “หัวใจสลาย” ส่งผลร้ายต่อร่างกายกว่าที่เราคิด แม้มันจะเศร้าจนเราไม่อยากให้มันเป็นจริง แต่เรื่องราวเหล่านี้ได้เกิดขึ้นจริงๆแล้ว เรื่องร้ายๆในสิ่งที่เราไม่เคยคิด
  • วันนี้ Spring ชวนมาเยียวยาจิตใจให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าไปกับบทความนี้ การเยียวยาผ่านสิ่งรอบข้าง อาจจะแค่ต้องไปพบเจออะไรที่ฮีลใจ อะไรที่เคยทำแล้วมีความสุข
  • วิธีเยียวยาภาวะหัวใจสลายฉบับนักจิตวิทยา ปล่อย หัดใจดีกับตัวเอง เราไม่ได้ตัวคนเดียว สงสารคนที่ตายจากไปแล้วได้ ยังไงก็อย่าลืมหันมาสงสารชีวิตของตัวเองบ้าง
     

การสูญเสียสิ่งที่รักไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม ไม่มีใครที่จะอยากให้สิ่งนั้นมาพรากมันไปจากเรา เมื่อมีสิ่งนั้นเหมือนกับโลกทั้งใบนั้นแสนจะสุข แต่เมื่อไม่มีอยู่ โลกทั้งใบนั้นกลับมืดลงทันที วันนี้ Spring ชวนมาเยียวยาจิตใจให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าไปกับบทความนี้กันค่ะ

เยียวยาใจที่สลายยังไงดี? เมื่อสูญเสียคนที่รัก

เมื่อภาวะ “หัวใจสลาย” ส่งผลร้ายต่อร่างกายกว่าที่เราคิด แม้มันจะเศร้าจนเราไม่อยากให้มันเป็นจริง แต่เรื่องราวเหล่านี้ได้เกิดขึ้นจริงๆแล้ว เรื่องร้ายๆในสิ่งที่เราไม่เคยคิด ไม่เคยอยากให้เกิด ไม่เคยหาทางรับมือ มีแต่คำพูดที่ว่า ไม่มีแล้ว แล้วเราจะอยู่ยังไงกันนะ? 

ความรู้สึกที่ว่านี้ยิ่งกว่าถูกบอกเลิก บอกเลิกยังแอบไปส่องได้ เพราะเขาแค่หายไปจากชีวิตย้ายไปอยู่ในโซเชียล แต่คนหรือสิ่งสำคัญที่หายไปจากชีวิต ที่ไม่รู้จะไปอยู่ดาวไหนบนโลกนี่สิ จะทำใจยังไง หรือแม้เราทุกคนจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า "เวลาจะช่วยเยียวยา" แต่เราก็บอกไม่ได้อยู่ดีว่าสำหรับแต่ละคน "เวลา" ที่ว่านั้นมันจะสั้นหรือมันจะยาว จะต้องใช้เวลาเป็นวัน เดือน หรืออีกกี่ปี ถึงจะรู้สึกดีขึ้น

House of the dragon2

ถ้าเป็นตัวเราเองที่สูญเสียสิ่งที่เคยมีล่ะ?

เคยมั้ยที่มีคนเคยบอกว่าชีวิตจริงมันยิ่งกว่านิยาย คำนี้ไม่เกินจริงเลยนะ ความสุขอยู่กับได้ไม่นานก็ไปมันสำหรับบางคนจริงๆ ที่โชคไม่เคยแม้แต่จะหันมามองอย่าหวังให้เข้าข้างเลย สูญเสียสิ่งที่เคยมี "สถานะอย่างเป็นทางการ" ในชีวิตเรา เช่น พ่อ แม่ สามี ภรรยา หรือแม้กระทั่งญาติห่างๆ คนรอบตัวในสังคมมักจะให้กำลังใจและเห็นอกเห็นใจอย่างมาก ในบางบริษัทอาจถึงกับอนุญาตให้ลางานเลยด้วยซ้ำ 

แต่ทางกลับกัน หากเป็นการสูญเสีย "แฟน" หรือ "สัตว์เลี้ยง" คนในสังคมกลับมองว่าไม่ได้สาหัสเท่าและคาดหวังให้เราก้าวผ่านความโศกเศร้าไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่ก็ดเป็นเรื่องที่น่าแปลกนะ เพราะ ความเสียใจที่เกิดจากการสูญเสียไม่ว่าจะเป็นอะไร มันวัดกันไม่ได้อยู่แล้ว

20th century girl

อีธาน ครอส ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ทดลองใช้เครื่องสแกน fMRI วิเคราะห์สมองของอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งเลิกรากับคนรักมา โดยทีมงานได้สังเกตการณ์การตอบสนองของสมอง ระหว่างการแสดงรูปของอดีตคนรักกับการได้รับความเจ็บปวดทางกาย

ผลพบว่าสมองตอบสนองต่อความเจ็บปวดทางจิตใจจากอาการอกหัก ไม่ต่างจากการเจ็บตัวเลย มากไปกว่านั้น อาการอกหักยังกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนส์แห่งความเครียดที่ชื่อว่า คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานไม่ปกติ ส่งผลให้ร่างกายของเราอ่อนแอลง ป่วยง่าย อาการไม่ต่างกับตอนที่เราเครียดเพราะงานหนักจนไม่สบายเลย จะเห็นได้ว่าเราหลอกตัวเองได้นะ แต่เราหลอกความเป็นจริงไม่ได้ สมองมันรับรู้ ทำให้ยิ่งชัดเจนว่าอาการเหล่านี้ สร้างความเจ็บปวดทางจิตใจได้มากมายเชียวล่ะ

การเยียวยา เริ่มต้นคงเยียวยาผ่านสิ่งรอบข้าง อาจจะแค่ต้องไปพบเจออะไรที่ฮีลใจ อะไรที่เคยทำแล้วมีความสุข แต่ถ้าแค่คิดว่าเห้ย นี่แหละที่เคยทำกับเขาไง นี่แหละที่นี่แหละที่เคยไป แนะนำว่าไปกับเพื่อนดีกว่า อย่างน้อยเพื่อนก็จะช่วยปลอบ ไป hangout กับเพื่อนก้น้อยอาจจะช่วยให้จากใช้เวลาเป็นปีๆ มันจะเหลือแค่เกือบๆปี ถึงไม่ได้ช่วยได้ทั้งหมด แต่เชื่อว่ามันจะดีขึ้นอย่างแน่นอน  

the amazing spider-man 2

วิธีเยียวยาภาวะหัวใจสลายฉบับนักจิตวิทยา

เริ่มแรกเลยคือ การรับฟังและยอมรับ ต่อให้ร่างกายบอกว่าเวลาจะช่วยเยียวยาก็จริง แต่เราไม่จำเป็นต้องนั่งเฉยๆ จนหายเจ็บก็ได้ ถูกมั้ยคะ? เรายังต้องไปหมอ เรายังต้องกินยา เรายังต้องล้างแผล ความรู้สึกก็เช่นกัน คนที่จะเยียวยาความรู้สึกของเราได้นั่นก็คือตัวเราเอง อยู่ที่ว่าเราเอาตัวเองไปจมปลักอยู่กับความเสียใจมั้ย ย้ำคิดย้ำทำในสิ่งที่เคยมีแล้วไม่มีรึเปล่า หรือเรายอมรับความเป็นจริงบ้างรึยัง ว่าชีวิตของนั้นก็ต้องเดินหน้าต่อ?

ปล่อย

เราต้องปล่อยความหวัง ปล่อยความทรงจำ ปล่อยสิ่งที่ผูกพันธ์ และต้องปล่อยอนาคตที่วางไว้ด้วยกัน พวกสิ่งของที่ชวนให้นึกถึง จริงอยู่ที่ การปล่อยไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ แต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เราอาจเสียดายก็จริง แต่ให้คิดไว้เสมอว่า ในช่วงเวลาที่เรามีกันอยู่ เราได้ทำดีที่สุดแล้ว และเราย้อนไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ไม่สูญเสียวันนี้วันหน้าก็ต้องเสีย จากช้าจากเร็วยังไงก็ต้องจากกัน 

หัดใจดีกับตัวเอง

การใจดีกับตัวเอง หรือมี Self-compassion นั่นเอง การหันมามองเห็นคุณค่าตัวเองและเลิกโทษตัวเองจะช่วยรักษาความเจ็บปวดที่มีอยู่ หากเราใจดีกับตัวเองไม่เป็น ให้เริ่มฝึกจากการใจดีกับคนอื่นก่อนก็ได้ เพราะมีงานวิจัยพบว่าการเขียนข้อความให้กำลังใจคนที่กำลังเจอสถานการณ์คล้ายๆ กับเรา มักจะทำให้เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจตนเองมากขึ้น

เราอาจเริ่มจากการเขียนจดหมายปลอบเพื่อนในจินตนาการที่กำลังแย่อยู่ หรือเริ่มจากการแปะคำคมให้กำลังใจตัวเองไว้บริเวณต่างๆ ของบ้าน ตั้งเป็นภาพหน้าจอโทรศัพท์ก็จะช่วยเสริมแรงใจได้ในอีกทางหนึ่ง

เราไม่ได้ตัวคนเดียว

สุดท้ายเราไม่ได้ตัวคนเดียว กำลังใจจากคนรอบตัว (Social support) เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านความสูญเสียไปได้ ดังนั้นถ้าเราเสียใจไม่ไหวและอยากร้องไห้ ก็ลองเล่าให้ใครสักคนฟัง แสดงความอ่อนแอ และปล่อยให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกปลอบบ้างก็ได้ หนึ่งชีวิตจบลง แต่อีกหนึ่งชีวิตยังต้องเดินหน้าต่อไป เติบดตอย่างสวยงาม ไม่ว่าเขาคนนั้นจะมองเรามาจากดาวดวงไหน ให้เขาสบายใจได้ว่าเรานั้นเป็นสุขดี

และไม่ได้จมอยู่กับความเสียใจไปตลอด ไม่ได้บอกให้ลืม แต่ให้จำนั่นแหละว่า ครั้งหนึ่งเราเคยมี ถึงตอนนี้ไม่มีแต่ยังอยู่ในความทรงจำเสมอ ต่อให้นึกไปแล้ว ยากเหลือเกินที่จะเดินหน้าต่อแต่อย่าจมกับความเศร้ามากนักเลย สงสารคนที่ตายจากไปแล้วได้ ยังไงก็อย่าลืมหันมาสงสารชีวิตของตัวเองบ้าง การเดินหน้าต่อไปของคุณ มันมีผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณเช่นกันนะ...

อ้างอิง: How to Fix a Broken Heart

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related