‘สตู โรบินสัน’ ผู้เล่าเรื่องพระเจ้าด้วยมายากล เผยแผ่ศาสนาคริสต์สร้างสรรค์

ในอดีต นักมายากล คือ ผู้วิเศษ ที่มักถูกเรียกตัวไปทำงานในวัง และเป็นที่ปรึกษาในการทำศึกสงครามหลายครั้ง เพราะพวกเขามักถูกเชื่อว่ามีเวทมนตร์จริงๆ

ทว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้คนเลิกเชื่อในเวทมนตร์ นักมายากล จึงกลายเป็นอาชีพ ที่สร้างความบันเทิงและรอยยิ้มให้กับผู้ชมที่ชื่นชอบเรื่องตื่นเต้นแทน

แต่ถึงแม้มายากลจะเป็นเพียงการแสดงเพื่อความสนุกสนาน แต่ก็มีนักมายากลคนหนึ่ง ที่แตกต่างออกไป โดยเขาใช้ความสามารถด้านมายากลเป็นตัวช่วยในการสอนศาสนาคริสต์ และเผยแผ่เรื่องราวความอัศจรรย์ของพระเจ้า จนกลายเป็นการแสดงมายากลที่มีเอกลักษณ์ ไม่น่าเบื่อ และดึงดูดใจให้คนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจศาสนามากขึ้น

คนคนนั้นคือ “สตู โรบินสัน (Stu Robinson)” นักมายากลนักมายากลชาวออสเตรเลีย ที่แสดงมายากลโดยมีแพชชั่นคือต้องการเผยแผ่ศาสนา จนไม่ผิดนักหาจะกล่าวว่า เขาและทีมงาน คือ “กระทรวงเวทมนตร์” ในโลกความจริง! ทว่าไม่เหมือนใน แฮรี่ พอตเตอร์ ที่ทำหน้าที่ดูแลการใช้เวทมนตร์ เพราะกระทรวงเวทมนตร์ของสตู มีขึ้นเพื่อพันธกิจของพระเจ้าเท่านั้น

สตู โรบินสัน คือใคร ?

ชีวิตสมัยเด็กของ สตู นั้น ผูกพันเชื่อมโยงอยู่กับโบสถ์ และเป็นสมาชิกกลุ่มเยาวชนในโบสถ์ที่ทำกิจกรรมเพื่อศาสนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่นั่นเองที่เขาได้พบกับนักแสดงมายากลที่จุดประกายให้เขาหลงใหลในศาสตร์การแสดงนี้ และฝึกฝนด้วยตัวเองตั้งแต่นั้น จนสามารถเป็นนักแสดงมายากลเต็มตัว

แต่ถึงจะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน สตูก็ยังรู้สึกว่าความกระตือรือร้น และแรงผลักดันที่จะทำสิ่งนี้ในระยะยาวสำหรับเขา ยังน้อยไปอยู่ จนกระทั่งเขาได้พบกับ “ดัง อันเดร โคล (André Kole)” นักมายากลชาวอเมริการะดับปรมาจารย์ และเป็นชาวคริสเตียนผู้อุทิศตัว

นั่นจึงทำให้ สตูเกิดความคิด เอาการแสดงมายากลมาผสมกับศาสนา และเขาก็สัมผัสได้ว่า วิธีนี้ไม่ใช่เรื่องแย่เลย และอาจเปลียนแปลงชีวิตเขาได้ด้วย

ในปี 2018 สตูกลายเป็นมิชชันนารีผู้เผยแผ่ศาสนาให้กับ Power To Change Australia ซึ่งเป็นองค์กรคริสเตียนที่ไม่แสวงหาผลกำไร แต่เขาไม่ได้เผยแผ่ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าด้วยการแจกใบปลิว หรืออ่านพระคัมภีร์ แต่ใช้การแสดงมายากลที่แทรกเรื่องปาฏิหาริย์ในคริสต์ศาสนา และมีเป้าหมายที่จะไปแสดงโชว์ในชุมชนคริสตจักร 50 แห่ง ซึ่งช่วยให้เขากลับมาสนุกกับการเป็นนักมายากลได้เหมือนสมัยเด็ก

การแสดงมายากลของเขา ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี เพราะเขาไม่ได้มองแค่ความตื่นตาตื่นใจให้ แต่ยังมอบความรู้ด้วย และดึงดูดทั้งชาวคริสเตียน และไม่ใช่ชาวคริสเตียนจำนวนมาก นอกจากนั้นโชว์ของเขายังถูกใจเยาวชนเป็นพิเศษด้วย

ทั้งนี้ สตูมักสร้างมายากลในแบบของตัวเอง เพื่อให้ไม่ซ้ำใคร โดยโชว์ที่เป็นไฮไลท์ของเขาคือ การเอาชีวิตรอดจาก “กรงแห่งความตาย (Cage of Death)” ซึ่งสื่อความหมายว่า มนุษย์ทุกคนหนีออกจากกรงนั้นได้ด้วยพระคุณของพระเจ้า ซึ่งทุกการแสดงของเขาจะมีการนำเสนอคำสอนของพระเจ้าอยู่เสมอ แต่จะมีพล็อตและเรื่องราวที่สนุกสนาน เข้าถึงง่าย เพื่อให้ผู้ชมใกล้ชิดกับพระเยซู พระเจ้า และคริสต์ศาสนาให้ได้มากที่สุด

มายากลโน้มน้ามผู้คนได้ !

ทั้งนี้ สตูเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า สิ่งที่เขาทำอยู่ไม่ได้สื่อว่า มายากลกับศาสนาคือเรื่องเดียวกันแต่อย่างใด แต่เขาแสดงมายากลเพื่อพาผู้ชมเข้าไปในสถานที่ซึ่งพวกเขาไม่เคยไปมาก่อน และมายากลก็เป็นสะพานเชื่อมในการส่งข้อความจากพระเยซูเท่านั้น”

“สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับเวทมนตร์คือความสามารถในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านมัน คุณสามารถนำมันขึ้นเวทีและทำให้เป็นละครชิ้นหนึ่งได้ และผมชอบที่สามารถโน้มน้าวใจผู้คน ทำให้พวกเขาหัวเราะหรือรู้สึกถึงอารมณ์ที่หลากหลายได้” สตู กล่าว

เรียบเรียงจาก : THE MINISTRY OF MAGIC IS REAL

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ผลสำรวจชี้!!! คู่แต่งงานแยกกันอยู่มากขึ้น เหตุเพราะต้องการพื้นที่ส่วนตัว 
• รู้จักงานแต่ง ‘สายเขียว’ เทรนด์ยอดฮิตของกัญชาชนในสหรัฐฯ 
• ทำไมบางคนเห็นผีบ่อย แต่บางคนทั้งชีวิต แม้แต่เงาผีสักตัวยังไม่เคยเห็น?