ครบรอบ 107 ปี การเสียชีวิตของหมอดูชื่อเสียงก้องโลกอย่าง กริกอรี รัสปูติน ผู้ (เคย) วิเศษที่แอบอ้างเข้าไปในราชสำนักรัสเซีย จนได้ดิบได้ดี เป็นที่วางพระทัยจากเชื้อราชวงศ์ กระทั่งใหญ่เกินหน้าเกินตาจนถูกสั่งเก็บ แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นของจุดจบอันน่าสยดสยอง...
“รัสปูติน” หรือชื่อเต็มว่า “กริกอรี รัสปูติน” นักบวชจอมตัณหาผู้บงการชักใยราชวงศ์ของรัสเซียอยู่หลายปี ทำให้การลอบสังการนักบวชผู้นี้ถูกนำไปยึดโยงกับการลอบสังหารราชวงศ์โรมานอฟของรัสเซีย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
30 ธ.ค. 1916 (107 ปี) คือวันที่ รัสปูตินถูกลอบสังหาร บ้างก็ว่าเขาถูกชนชั้นสูงในราชวงศ์เหม็นขี้หน้ามาเนิ่นนาน จึงมาสู่การสั่งลอบสังหาร ทว่า การตายของเขากลับกลายเป็นการตายหนึ่งของรัสเซียหรือของโลกเลยก็ว่าได้ที่ได้ชื่อว่า “ลึกลับซ่อนเงื่อน” เป็นที่สุด
รัสปูติน เป็นใคร มาจากไหน?
ที่มาของ กริกอรี รัสปูติน ยังไม่เป็นที่แน่ชัดนักว่าเขาเป็นใครมาจากไหน มีเรื่องเล่าว่าตอนเขาอายุได้ 18 กะรัต รัสปูตินได้มุ่งหน้าเข้าหานิกายที่ชื่อว่า “khlysty” เป็นนิกายที่เชื่อและสนับสนุนให้ผู้ติดตามทำร้ายร่างกายตัวเอง
หลังจากนั้น รัสปูตินก็เริ่มมีชื่อเสียงในเรื่องเกี่ยวกับไสยเวทมนต์วิเศษ เมื่อไปลูบแขนหรือขาใครคนนั้นก็จะกลับมาเดินได้อย่างไม่เคยป่วยมาก่อน ทำให้ราชสำนักรัสเซียได้ยินเข้า จึงเรียกตัวมาเข้าเฝ้า ผู้อ่านคงเดาได้ว่าทำไมราชสำนักถึงต้องการหมอมือดีเข้าไปในพระราชวัง?
ขณะนั้น มกุฎราชกุมารอเล็กซี รัชทายาทของซาร์นิโคลัสที่ 2 และซารินาอเล็กซานดรา เกิดอาการป่วย พระโลหิตไหลไม่หยุด หยูกยาหรือความรู้ทางการแพทย์แบบสมัยใหม่ก็ยังเข้าไม่ถึง ทำให้ คนที่โดดเด่นขึ้นมาในเรื่องนี้คือ รัสปูติน
เขาถูกเรียกเข้าเฝ้า ว่ากันว่ารัสปูตินได้แสดงอภินิหาร ด้วยการรักษาอาการป่วยของมกุฎราชกุมารอเล็กซี ด้วยการสะกดจิตจนสำเร็จ ผลงานขนาดนี้ขึ้นแท่นเป็นคนโปรดของพระราชสำนักไปอย่างไม่ต้องสงสัย
อำนาจเต็มมือ
หลังจากนั้นรัสปูตินก็ละเลงอำนาจที่มีอย่างสมน้ำสมเนื้อ เขาเข้าไปยุ่งแม้กระทั่งเรื่องการดำเนินนโยบายของรัฐ หรือแม้กระทั่งเรื่อง น้ำเมา เรื่องเพศ เป็นต้น จากแค่หมอดูธรรมดา ๆ แน่นอนว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่เป็นที่ชอบพอแก่คนในราชสำนักแน่ ๆ
รัสปูตินได้อำนาจเต็มตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเข้าส่สงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อซาร์นิโคลัสที่ 2 ได้ตัดสินพระทัยเสด็จไปร่วมทัพในแนวหน้าในปี 1915 พร้อมมอบหมายให้ ซารินาอเล็กซานดรา เป็นผู้สำเร็จราชการแทน แต่ซารินาอเล็กซานดราเป็นกังวลเกี่ยวกับพระอาการของรัชทายาทเป็นอย่างมากจึงได้ส่องไม้ต่อให้รัสปูตินเป็นคนจัดการเรื่องในประเทศแทน
หากจำได้ว่า รัสปูตินไม่เป็นที่ชอบพอแก่คนในราชสำนักอยู่แล้ว ยิ่งเขาได้รับอำนาจเต็มในการดูแลจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในประเทศแต่เพียงผู้เดียว ทำให้ไฟแค้นที่แต่ละคนมียิ่งรุนแรงเข้าไปใหญ่ หนึ่งชื่อที่โผล่ขึ้นมาเป็นหัวขบวนในการลอบสังหาร รัสปูติน คือ เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ (Felix Yussoupov)
ประตูแห่งความตายแง้มออก...
มีเรื่องเล่าว่า เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ ทรงหลอกให้รัสปูตินกินเค้กและไวน์ที่ผสมยาพิษเข้าไป ทว่า ยังไม่สามารถทำอะไรรัสปูตินได้ (ไม่ระบุว่าเหตุใดเขาถึงรอดจากยาพิษไปได้)
มีหลายทฤษฎีพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า ที่รัสปูตินไม่ตายเพราะหมอคนที่ได้รับมอบหมายให้วางบาพิษเกิดสำนึกในวิชาชีพแพทย์และเกรงกลัวต่อบาปขึ้นมา เลยไม่กล้าใส่ยาพิษลงไป หรืออีกทฤษฎีที่บอกว่าไม่มียาพิษอะไรตั้งแต่แรก ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องแต่งภายในราชสำนักที่กุขึ้นแล้วเล่าส่งต่อกันเท่านั้น
รัสปูตินตายยังไง
จมน้ำ ถูกยิง สั่งขังลืม? ประวัติศาสตร์กระแสหลักเขียนไว้ว่า หลังจากที่รัสปูตินไม่เป็นอันตรายจากยาพิษที่เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟจงใจใส่เข้าไป พระองค์จึงกระหน่ำยิงใส่รัสปูตินไปอีกระลอก “แต่เขาไม่ตาย” ก่อนจะจนตรอกและถูกขุนนางในราชสำนักอัดกระสุนใส่หมดหนทางรอด
ความลึกลับซ่อนเงื่อนของชายผู้นี้คือ แม้จะบอกว่าโดนยิงจนเสียชีวิต มีข้อมูลแหล่งหลากหลายยแห่งที่เขียนไว้ว่า เขาอาจไม่ได้เสียชีวิตจากพิษกระสุนปืน แต่อาจเป็นการจมน้ำตาย นั่นหมายความว่าช่วงที่ศพเขาโดนจับโยนลงน้ำ เขายังมีชีวิตอยู่? หรือเขามีเวทมนต์จริง ๆ
เนื้อหาที่น่าสนใจ