5 เหตุผล ทำไมถึงห้ามพลาดซีรีส์ ‘100 years of solitude’
วันพุธกลางสัปดาห์แบบนี้ ใครที่ยังไม่มีแผนออกไปเที่ยวไหน เราอยากชวนดูซีรีส์ ‘100 ปีแห่งความโดดเดี่ยว (100 years of solitude)’ ที่กำลังเข้าเน็ตฟลิกซ์ในวันนี้พอดี (11 ธ.ค.)
ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลจากวรรณกรรมของ กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ นักเขียนโคลอมเบียที่ได้รับการยอมรับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
เรื่องย่อของวรรณกรรมนี้ เป็นเรื่องราวเจ็ดรุ่นของครอบครัวบวนเดียกับเมืองมาก็อนโด ตั้งแต่ครั้งที่หลายสิ่งอย่างยังไร้นาม และสิ่งมหัศจรรย์ยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ครอบครัวบวนเดียที่เต็มไปด้วยความพิสดาร สมานเป็นส่วนหนึ่งกับประวัติศาสตร์อันโหดร้ายของสงครามการเมืองและการสังหารหมู่ กระทั่งสุดท้าย ไม่เหลือใครในครอบครัวที่มีชีวิตอยู่บนผืนโลกอีกต่อไป
และนี่คือ 5 เหตุผลที่เราไม่อยากให้คุณพลาดซีรีย์เรื่องนี้
1. 100 ปีแห่งความโดดเดี่ยวได้รับโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี 1982 และได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นธารของกระแสวรรณกรรมสัจนิยมมหัศจรรย์ (Magical Realism) ของละตินอเมริกา ที่ผสมผสานความจริงกับโลกแห่งจินตนาการจนแยกกันไม่ออก
นับตั้งแต่หนังสือเล่มนี้ถูกวางขายครั้งแรกในปี 1967 คาดว่ามันถูกขายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านเล่ม ถูกแปลไปแล้ว 46 ภาษา
และถ้าใครสนใจอยากอ่านหนังสือเล่มนี้ เมื่อปี 2563 สำนักพิมพ์บทจรเพิ่งตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ใหม่อีกครั้ง ด้วยรูปเล่มที่สวยงามและน่าอ่านอย่างมาก
2. 100 ปีแห่งความโดดเดี่ยวเต็มไปด้วยเกร็ดประวัติศาสตร์ของทวีปละตินอเมริกา แต่ถูกเล่าผ่านเรื่องราวของตัวละครสมมติ ที่เปรียบได้กับคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคมละตินอเมริกา ตั้งแต่สงคราม 1,000 วัน โรคตื่นกล้วย จนถึงการสังหารหมู่คนงานเก็บกล้วยครั้งใหญ่ ที่ไม่เคยมีใครจดจำได้ นอกจากคนวิปลาศบางคนเท่านั้น
และถ้าใครสนใจการเมืองและประวัติศาสตร์ของละตินอเมริกาจะรู้ว่า ประเทศไทยและภูมิภาคละตินอเมริกา มีอะไรที่เหมือนกันหลายอย่างมากเหลือเกิน ตั้งแต่ ความสำคัญของสถาบันครอบครัว, ความเชื่อเรื่องผีสางและโชคลาง จนถึงการรัฐประหารนับครั้งไม่ถ้วนจากกองทัพ
3. นี่เป็นครั้งแรกที่หนังสือเล่มนี้ถูกนำมาดัดแปลง โดยนับตั้งแต่หนังสือเล่มนี้ถูกวางขาย ไม่เคยมีใครได้รับลิขสิทธิ์ในการดัดแปลงหนังสือเล่มนี้แม้แต่ครั้งเดียว สาเหตุเป็นเพราะความซับซ้อนของเนื้อหา และเส้นเรื่องที่เกี่ยวโยงพันกันไปมาเหมือนใยแมงมุม จนทำให้มาร์เกซไม่เชื่อว่ามันจะถูกใส่ลงไปในหนังสักเรื่องหนึ่งได้
อย่างไรก็ตาม ภายหลังความสำเร็จของซีรีส์ และความสำเร็จของภาพยนต์สเปนอย่าง ‘Roma’ และ ‘Nacros’ ในเน็ตฟลิกซ์ ทำให้ครอบครัวของมาร์เกซตัดสินใจขายลิขสิทธิ์ในที่สุด
4. ลูกชายทั้ง 2 คนของมาร์เกซรับตำแหน่งโปรดิวเซอร์ โรดริโก และ กอนซาโล มาร์เกซได้รับเชิญให้เป็นผู้อำนวยการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ ดังนั้น ผู้ชมอย่างเราจึงมั่นใจได้เปราะนึงว่าซีรีย์เรื่องนี้จะต้องออกมางดงามเหมือนต้นฉบับมากที่สุด และจะไม่ถูกดัดแปลงส่วนสำคัญออกไปอย่างแน่นอน
5. เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่เน็ตฟลิกซ์ลงทุนมากที่สุด ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเป็นซีรีส์ที่มีโปรดัคชั่นใหญ่ที่สุด ที่เคยถ่ายทำในละตินอเมริกา โดยซีรีส์จะแบ่งออกเป็น 2 ซีซั่น ซีซั่นละ 8 ตอน และเริ่มถ่ายทำตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2023 ใน 15 เมืองทั่วประเทศโคลอมเบีย พร้อมด้วยนักแสดงสมทบกว่า 20,000 คน
ใครดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว อย่าลืมมาแชร์กันนะว่าเป็นอย่างไรบ้าง
