SHORT CUT
'Harry Potter' ฉบับซีรีส์ เตรียมสร้างใหม่ รับสมัครนักแสดงเด็กเรียบร้อย เตรียมฉายภายในปี 2026 แต่ทำไมต้อสร้างใหม่ หรือฉบับภาพยนตร์ดีไม่พอ ?
‘วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี (Warner Bros. Discovery)’ ประกาศว่า จะนำแฟรนไชส์ Harry Potter กลับมาปัดฝุ่นสร้างใหม่เป็นฉบับซีรีส์ มาตั้งแต่ปี 2023 และล่าสุดในปีนี้ ก็เพิ่งประกาศรับสมัครนักแสดงเด็กทั่วสหราชอาณาจักรไปไม่นาน
แต่การสร้างใหม่ในครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า มันจำเป็นขนาดไหน ที่ต้องเรื่องราวฮอกวอตส์มาปัดฝุ่นใหม่ ? เพราะ Harry Potter ฉบับภาพยนตร์ 7 ภาค ที่ฉายตั้งแต่ปี 2001 -2011 ก็สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับแฟนได้อย่างมาก จนหลายคนยกย่องว่า เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ดัดแปลงจากหนังสือเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล และทำให้ยังมีการเข็นหนังในจักรวาลเดียวกันอย่าง Fantastic Beasts ออกมา แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรก็ตาม
Screen Rant เว็บไซต์ข้อมูลสื่อบันเทิงชื่อดัง แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า เหตุผลหลักที่ Warner Bros. Discovery รีบูต Harry Potter เป็นซีรีส์ ก็เพราะจะเน้นการเล่าเรื่องที่สมเหตุสมผลขึ้น เพราะแม้ว่า ภาพยนตร์ Harry Potter ทั้ง 7 ภาคจะสร้างตามวรรณกรรม แต่ก็มีหายอย่างถูกตัดออกไป เพราะต้องการจำกัดงบประมาณ และให้มีรอบฉายมากๆ
ในทางกลับกัน หากได้ทำเป็นซีรีส์ทางทีวี จะสามารถเล่าเรื่องได้มากขึ้น ทำให้ผู้สร้างเพิ่มใจความสำคัญที่มีในหนังสือได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ผู้ชมรู้จักตัวละคร ความสัมพันธ์ของแต่ละคน ไปจนถึงเปิดโลกเวทมนตร์ขอ’ฮอกวอตส์ให้กว้างขึ้น
อีกเหตุผลที่สำคัญคือ การสร้างซีรีส์มีความแตกต่างจากภาพยนตร์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวิธีการสร้าง การเขียน การถ่ายทำ และการผลิต ไปจนถึงวิธีการดำเนินเรื่องในแง่ของระยะเวลาและงบประมาณ หมายความว่าการสร้างใหม่ของHarry Potterจะให้ความรู้สึกแตกต่างจากภาพยนตร์ต้นฉบับแน่นอน และผู้สร้างก็วางแผนจะใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี ถ่ายทำจนคบ 7 ซีซั่น ตามจำนวนหนังสือ นี่จึงไม่ใช่การขายของเก่าแน่นอน แต่จะเป็นการทำให้แตกต่างออกไป
นอกจากนี้ ทาง Screen Rant ยังยกตัวอย่างสิ่งฉบับภาพยนตร์ทำไว้แย่มากๆ 10 หัวข้อ ซึ่งควรได้รับการแก้ไขในฉบับซีรีส์ ดังนี้
ทั้งนี้ หลังประกาศเปิดรับนักแสดง ล่าสุด ‘ไรอัน คูลแกน (Ryan Coogan)’ คอลัมนิสต์และบรรณาธิการฝ่าย Voices Desk แห่ง THE INDEPENDENT ก็ได้เขียนบทความฟันธงว่า การรีบูตของ Harry Potter ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เพราะ นักแสดงหลายคนจากภาพยนตร์ต้นฉบับ ได้ประกาศแยกตัวออกจากโปรเจกต์นี้ และบางคนก็ขอตัดขาดจาก แฟรนไชส์ แฮรี่พอตเตอร์ตั้งนานแล้ว เพราะมุมมองของ ‘เจเค โรว์ลิ่ง’ ที่มีต่อกลุ่มหลากหลายทางเพศ
ยิ่งไปกว่านั้น ทางวอร์เนอร์ ยังประกาศคัดเลือกนักแสดงทุกบทบาท โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ เพศ ความพิการ รสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ หรือเรื่องพื้นฐานอื่นใดที่ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย นั่นหมายความว่าผู้ชมอาจได้เห็น รอน วีสลีย์ เป็นคนผิวสี พิการ และเป็น LGBT+ ซึ่งคงไม่ถูกใจแฟนๆ แน่นอน
Harry Potter ฉบับซีรัส์ มีกำหนดฉายทาง HBO Max ภายในปี 2026 มีทั้งหมด 7 ซีซั่นตามจำนวนหนังสือ
ที่มา : Screen Rant
ข่าวที่เกี่ยวข้อง