svasdssvasds

ออปเพนไฮเมอร์ บิดาแห่งระเบิดปรมาณู และถูกสร้างเป็นหนังจากฝีมือโนแลน

ออปเพนไฮเมอร์ บิดาแห่งระเบิดปรมาณู และถูกสร้างเป็นหนังจากฝีมือโนแลน

ทำความรู้จักกับ ประวัติ เจ โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ชายผู้อยู่เบื้องหลัง ระเบิดปรมาณู ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่ชีวิตของเขา กำลังจะถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ จากฝีมือ สเด็จพ่อ คริสโตเฟอร์ โนแลน

• วัยเยาว์ของ Oppenheimer ออปเพนไฮเมอร์

เจ.โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ เกิดเมื่อปี 1904 พ่อกับแม่ของเขาเป็นชาวเยอรมันที่อพยพมาอยู่ในสหรัฐอเมริกา และเมื่อออปเพนไฮเมอร์ อายุ10 ขวบ เขาสามารถเรียนเกี่ยวกับแร่ธาตุ ฟิสิกส์และเคมีได้อย่างเข้าใจ ถึงขนาดมีคำกล่าวที่ว่า ครั้งหนึ่ง สมาคม ‘New York Mineralogical Club’ ซึ่งเป็นสมาคมเก่าแก่ที่ศึกษาเกี่ยวกับแร่วิทยา ได้เชิญเขาไปบรรยายโดยที่ไม่รู้เลยว่าออพเพนไฮเมอร์ เป็นเพียงเด็กอายุ 12  กระทั่งอายุ 19 ปี เขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสาขาวิทยาศาสตร์เคมี นอกจากนี้เขายังลงเรียนวิชาอื่น ๆ อีกกว่า 6 ตัว จากความสนใจด้านการศึกษา ทำให้ออพเพนไฮเมอร์สามารถข้ามไปลงเรียนวิชาขั้นสูงได้ ซึ่งผลการเรียนวิชาอื่น ๆ ก็ยังโดดเด่นอยู่เช่นเคย  

 

ออปเพนไฮเมอร์ ยังมีความเป็นอัจฉริยะรอบรู้  และหากเป็นสำนวน ณ ปัจจุบัน ต้องเรียกว่า "เก่งไม่ไหว" ไปทุกด้าน หรือเป็น “โพลีแมท” (polymath) โดยนอกจากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญฟิสิกส์เชิงทฤษฎีแล้ว เขายังมีความรู้ทางมนุษยศาสตร์และเข้าใจภาษาต่างประเทศถึง 6 ภาษา รวมถึงภาษากรีกและภาษาสันสกฤตด้วย  ซึ่งหลังเรียนจบการศึกษาจากฮาร์วาร์ด เจ. โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์  ถือว่าโชคดีอย่างมากที่ได้อยู่ในช่วงเวลาสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์ของโลก  เพราะช่วงนี้นักฟิสิกส์ต่างมุ่งมั่น เพื่อพัฒนาทฤษฎีการก้าวล้ำของกลศาสตร์ควอนตัม ต่อจากนั้นเขาก็ได้ศึกษาต่อเรื่อย ๆ จนจบปริญญาเอกในปี 1927 และเข้ารับตำแหน่งศาสตราจารย์ฟิสิกส์สังกัดมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กเลย์ และสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาได้รู้จักเพื่อนในแวดวงนักวิทยาศาสตร์มากมายที่เขามีอันต้องรบกวนในอนาคต

ออปเพนไฮเมอร์ บิดาแห่งระเบิดปรมาณู และถูกสร้างเป็นหนังจากฝีมือโนแลน

ชื่อเสียงของออปเพนไฮเมอร์ในวงการฟิสิกส์ ทำให้เขาได้รับเชิญจากรัฐบาลสหรัฐฯ  ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 กับฝ่ายสัมพันธมิตรในปี 1941 ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งมุ่งคิดค้นและพัฒนาระเบิดปรมาณูในฐานลับกลางทะเลทราย ที่ห้องปฏิบัติการลอสอะลามอส (Los Alamos) ของรัฐนิวเม็กซิโก โดยออปเพนไฮเมอร์และทีมงานใช้เวลาเพียง 2 ปีครึ่ง ก็สามารถประดิษฐ์ระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกได้สำเร็จ
 

• โครงการแมนฮัตตัน : โครงการแห่งความดำมืด

หากเจาะในช่วงเวลาแห่งโปรเจ็ค โครงการแมนฮัตตัน ,โปรเจกต์นี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของการกักเก็บความลับอย่างถึงที่สุด โดยต้องห่างไกลจากมนุษย์ และครัวเรือน รวมถึงมีระบบคุ้มกันอย่างแน่นหนา เพราะหากแม้ความลับนี้หลุดรั่วออกไป นั่นหมายถึงชีวิตของผู้คนอีกกว่าล้านคนจะต้องตกอยู่ในอันตราย 

หลังจากเลือกสถานที่อยู่หลายแห่ง ออพเพนไฮเมอร์ ก็ได้เลือกให้โปรเจกต์แมนฮัตตันไปสร้างอยู่บนที่ราบสูง ‘เมซา’ ซึ่งมีลักษณะคล้ายภูเขาสูงชันแต่เป็นที่ราบป้าน โดยตั้งอยู่ทางตอนเหนือรัฐนิวเม็กซิโก ใกล้ๆกันนั้นเป็นพื้นที่เขียวชอุ่มของป่า และสุดปลายทางของพื้นที่ก็เป็นทะเลทรายยาวเหยียด

แถมที่ตั้งแห่งนี้ยังห่างจากเมืองกว่า 40 ไมล์ ซึ่งอาคารแถวนั้นมีเพียง ‘โรงเรียนลอสอาลาโมส’ ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว และสถานที่นี้ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการลับสุดยอดเพื่อสร้างอาวุธสงครามที่อันตรายที่สุด  

 

เปิดประวัติ เจ โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ผู้อยู่เบื้องหลัง ระเบิดปรมาณู ก่อนจะถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ จากฝีมือ คริสโตเฟอร์ โนแลน

ในโครงการแมนฮัตตัน , ซึ่งเขาและทีม ประดิษฐ์ระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกได้สำเร็จนั้น เขาได้ยลอานุภาพของเจ้าสิ่งนี้มันเกินกว่าที่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนได้จินตนาการเอาไว้ ออปเพนไฮเมอร์ตระหนักทันทีว่า เขาได้สร้างอาวุธที่จะยุติสงครามโลกครั้งที่สองไว้ในกำมือเรียบร้อย และสิ่งนี้ก็ได้ถูกเรียกว่า ระเบิดปรมาณู

แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ผู้ร่วมการวิจัยหลายคน จะยื่นเรื่องไม่ให้มีการใช้อาวุธชนิดนี้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีการเสนอให้ออพเพนไฮเมอร์จัดงานแสดงแสนยานุภาพของระเบิดปรมาณูให้โลกดู เพื่อเป็นการขู่ญี่ปุ่นให้ยอมแพ้สงครามเท่านั้น แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจส่งระเบิดปรมาณูไปที่ญี่ปุ่นจริงๆอยู่ดี และอย่างที่ประวัติศาสตร์โลกได้บันทึกสิ่งที่เกิดอะไรขึ้นที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ วันนั้น 

ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบความเสียหายจากระเบิดปรมาณู ที่เกิดจากไอเดียของออปเพนไฮเมอร์อย่างรุนแรง โดยภายหลังจากการระเบิดที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ ในช่วงปี 1945 ญี่ปุ่นก็ได้ประกาศยอมแพ้สงคราม อันนำไปสู่การสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง

อย่างไรก็ตาม หลังการทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ภรรยาของ ออปเพนไฮเมอร์ได้เปิดเผยต่อเพื่อน ๆ ของเธอทางจดหมายว่า ออปเพนไฮเมอร์สามีของเธอมีภาวะซึมเศร้าและจมดิ่งลงสู่ห้วงของความสำนึกเสียใจอย่างลึกซึ้ง หลังจากได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุสลดครั้งประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ แม้ภายนอกเขาจะดูสงบนิ่งและมีอารมณ์เป็นปกติก็ตาม

เปิดประวัติ เจ โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ผู้อยู่เบื้องหลัง ระเบิดปรมาณู ก่อนจะถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ จากฝีมือ คริสโตเฟอร์ โนแลน

• หนังอัตชีวประวัติ Oppenheimer จากฝีมือโนแลน

ส่วนในแง่ของภาพยนตร์ Oppenheimer จากฝีมือของคริสโตเฟอร์ โนแลน ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นหนังอัตชีวประวัติฝีมือโนแลนเรื่องแรกอีกด้วย , โดยก่อนหน้านี้เขาประสบความสำเร็จมาอย่างมากมาย อาทิ แบทแมน The Dark Knight Inception , Interstellar หรือ Tenet 

ทั้งนี้ โนแลน ประกาศว่า หนัง Oppenheimer ออปเพนไฮเมอร์  เรื่องนี้ ดัดแปลงจากหนังสือ ‘American Prometheus: The Triumph and Tragedy of J. Robert Oppenheimer’ โดย ไค เบิร์ด (Kai Bird) และ มาร์ติน เจ. เชอร์วิน (Martin J. Sherwin) ซึ่งหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ในปี 2005 ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปีต่อมา โดยผู้เขียนใช้เวลากว่า 2 ทศวรรษในการค้นคว้าชีวิตของ ออปเพนไฮเมอร์ 
.
จุดเด่นของหนังในฝีไม้ลายมือของคริสโตเฟอร์ โนแลนนั้น  ,อัตลักษณ์สำคัญของหนังโนแลน คือการระดมดาราระดับ A-List ไว้มากมาย แต่ Oppenheimer ถือได้ว่า มากเป็นพิเศษ เพราะนอกจาก คิลเลียน เมอร์ฟี (Cillian Murphy) นักแสดงคู่บุญ ที่มาแสดงให้กับหนังโนแลนมาตั้งแต่ Batman Begins (2005) เมอร์ฟีก็มารับเชิญให้โนแลนเสมอ และใน Oppenheimer ถือว่าความพยายามของคิลเลี่ยน เมอร์ฟี สัมฤทธิ์ผลจนได้ เพราะหนังเรื่องนี้ (ที่เขาได้มาแสดงให้โนแลนเป็นเรื่องที่ 6) เมอร์ฟีได้รับบทนำ โดยเขาได้รับบท เจ. โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ตัวเดินเรื่องตัวหลัก

และนอกจากนั้น รายชื่อนักแสดงในหนัง Oppenheimer ก็มีตั้งแต่ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.), แมตต์ เดมอน (Matt Damon), เอมิลี บลันต์ (Emily Blunt), ฟลอเรนซ์ พิวจ์ (Florence Pugh), เรมี มาเล็ค (Rami Malek), เคนเน็ธ บรานาห์ (Kenneth Branagh) ไปจนถึง แกรี โอลด์แมน (Gary Oldman) และนักแสดงหน้าใหม่อีกอย่างคับคั่ง

และ หนังเรื่องนี้ จะพูดถึงระเบิดปรมาณู แต่ก็มีข่าวที่น่าเหลือเชื่อออกมาว่า ภาพยนตร์ Oppenheimer หรือ ออปเพนไฮเมอร์  จะไม่มีการใช้ซีจีไอแม้แต่ฉากเดียว โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังมีการถ่ายทำในสถานที่จริง และให้ทีมงานสร้างภาพเอฟเฟกต์ปฏิกิริยาภายในระเบิดปรมาณูให้ผู้ชมเห็นภาพจริง ๆ โดยไม่ใช้เทคโนโลยี CGI ซึ่งทำให้ทุนสร้างของ ‘Oppenheimer’ พุ่งสูงขึ้นถึง 100 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3,370 ล้านบาท

 

related