SHORT CUT
รู้จัก ‘Cat Lady’ คำศัพท์เหยียดผู้หญิงที่วันๆ เอาแต่อยู่กับแมว เข้าสังคมไม่เป็น ไม่แต่งงาน ไม่มีลูก สะท้อนอคติทางเพศ
ไม่นานมานี้ ช่วงที่การแข่งขันในสนามเลือกตั้งสหรัฐอเมริกากำลังเข้มข้น คำว่า ‘Cat Lady’ ได้กลายมาเป็นประเด็นสำคัญ จากกรณี ‘เจ.ดี. แวนซ์’ (Sen. JD Vance) ผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากฝั่งของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ที่ได้ออกมาแซวพรรคเดโมแครตว่า มีแต่พวก “Cat lady” ที่จะทำให้ประเทศทุกทรมาน
โดยแวนซ์ตั้งใจ แซะไปที่ ‘กมลา แฮร์ริส’ แคนดิเดตประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครต ที่ไม่มีลูก เพื่อบอกอ้อมๆ ว่า เธอควรเป็นผู้หญิงที่อยู่บ้านเลี้ยงแมวมากกว่าจะมาบริหารประเทศ ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเขาแสดงถึงทัศนคติที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้หญิงอย่างชัดเจน และมีพยายามที่จะกีดกันผู้หญิงออกจากบทบาททางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ‘กมลา แฮร์ริส’ มีลูกเลี้ยง 2 คน และเท่าที่รู้เธอไม่ได้เลี้ยงแมวแม้แต่ตัวเดียว แต่หลังจากถูกยกเรื่องเพศมาเป็นประเด็น กลุ่มคนรักสัตว์และผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ทาสแมว” ทั้งหลายในสหรัฐฯ ก็ออกมาปกป้องแฮร์ริส และสนับสนุนพลังหญิงในตัวเธอให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปให้สำเร็จ
ส่วนคำว่า ‘Cat Lady’ มักถูกตีความว่า หมายถึงผู้หญิงที่เอาแต่เลี้ยงแมว ไม่มีความมั่นคงทางจิตใจ เข้ากับคนในสังคมไม่ได้ และถ้าหากเลี้ยงแมวหลายตัวเกินไปจนล้นบ้าน ก็จะกลายเป็น ‘Crazy Cat Lady’ ที่มีความหมายแย่ลงไปอีก
ส่วนทำไมถึงต้องเป็นผู้หญิงกับแมว อาจต้องย้อนไปในสมัย อียิปต์โบราณแมวเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิง ดูได้จาก 'เทวีบัสเตต(Bastet)' ที่ ถูกพรรณนาว่าเป็นแมวหรือผู้หญิงที่มีหัวเป็นแมว ซึ่งสะท้อนถึงอำนาจของผู้หญิงในเวลานั้น
แต่ความรักแมวเริ่มถูกมองว่าอันตราย ในยุคที่ศาสนาคริสต์ เฟื่องฟูสุดๆ สมัยยุโรปยุคกลาง เพราะผู้หญิงที่ไม่มีลูก ไม่มีความเป็นแม่บ้าน และไม่ปฏิบัติตามค่านิยมในเวลานั้น จะถูกมองว่า "นอกรีต" และส่วนใหญ่พวกเธอก็ชอบเลี้ยงแมวกันทั้งนั้น
ยกตัวอย่างเช่น ในปี 1566 ‘แอกเนส วอเตอร์เฮาส์ (Agnes Waterhouse) ’ ผู้หญิงกลุ่มแรกๆ ในประวัติศาสตร์ ที่ถูกประหารเพราะข้อหาใช้เวทมนตร์ และดูเหมือนว่าเธอจะยอมสารภาพว่า เลี้ยงแมวปีศาจตัวหนึ่งที่เคยฆ่ามนุษย์มาก่อนด้วย
แต่การเลี้ยงแมว เริ่มเชื่อมโยงกับภาพหญิงโสด ในนิตยสาร ‘Potter's American Monthly’ ฉบับปี 1881 ซึ่งนักเขียนชาย ‘ฮาร์ท เอรอลต์ (Hart Ayrault)’ บรรยายถึงผู้หญิงโสดไว้ว่า “คือผู้หญิงที่ล้มเหลวในเป้าหมายชีวิตอันสูงสุด” ซึ่งสมัยนั้นคืองานแต่งงาน โดยในความเห็นของเขา ทำให้คนในสังคมเริ่มเกิดภาพจำว่า ผู้หญิงเลี้ยงแมวคือ “Crazy Cat Lady” หรือ "ผู้หญิงคลั่งแมว" ที่ส่วนใหญ่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ถูกปฏิเสธจากสังคม ล้มเหลวด้านการงาน และไม่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่อย่างที่ผู้หญิงควรมี แต่ไปมอบความรักทั้งหมดให้แมวแทน
ในศตวรรษที่ 19 ยังถูกใช้เป็นภาพแทนโฆษณาต่อต้านสิทธิเลือกตั้งของผู้หญิงในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีข้อความทำนองว่า การให้สิทธิเลือกตั้งแก่ผู้หญิงเป็นเรื่องไร้สาระพอๆ กับการให้สิทธิเลือกตั้งกับแมวอีกด้วย
นอกจากนี้ในปี 2020 นักเขียนหญิงนาม ‘อลิซ แมดดิคอตต์ (Alice Madicott)’ ยังได้ออกหนังสือ ‘Cat Women: An Exploration of Feline Friendships and Lingering Superstitions Hardcover’ ที่เล่าทำนองว่า แมวเป็นสัตว์ที่เชื่องได้ยาก ดังนั้นผู้หญิงที่ชอบเลี้ยงแมวมากๆ จึงมีภาพเป็นผู้หญิงที่ไม่เชื่อง ต่อต้านสังคมนั่นเอง
ความเป็นสาวโสดกับการเลี้ยงแมว จึงกลายเป็นของคู่กันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้หญิงที่เลี้ยงแมว ไม่ว่าจะเข้าสังคมหรือไม่เข้าสังคมก็ตาม จึงมักถูกแซวว่าเป็น ‘Cat Lady’ กันเป็นหมด แต่เอาเข้าจริง คำนี้ก็เป็นได้ทั้งคำชมและคำล้อเลียน เพราะถ้าออกมาจากปากคนไม่คิดอะไร ก็หมายถึงผู้หญิงที่รักแมวปกติ แต่ถ้าออกมาจากปากคนที่อคติในเรื่องเพศ ความหมายก็จะดูเป็นไปในแง่ลบโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ในยุคนี้คนจำนวนมากก็ภูมิใจกับการเป็น ‘Cat Lady’ เพราะคำนี้ปรากฏอยู่บนเสื้อยืดและหนังสือมากมาย เนื่องจากการเลี้ยงแมวมีประโยชน์ในด้านลดความเครียดจากชีวิตการทำงาน และความผูกพันกับแมวเพิ่มความสดใสทางอารมณ์ได้ และไม่ว่าจะเลี้ยงสัตว์ชนิดไหน ล้วนส่งเสริมนิสัยความรับผิดชอบในชีวิตเราทั้งสิ้น ซึ่งตามสถิติของสมาคมสัตวแพทย์อเมริกันในปี 2022 มีครัวเรือนในอเมริกาที่เลี้ยงแมวมากกว่า 37 ล้านครัวเรือน
หาก ‘Cat Lady’ จะเป็นคำที่แย่จริงๆ ก็คงหมายถึงคนที่เลี้ยงแมวจนล้นบ้าน สร้างความสกปรกและความรำคาญต่อเพื่อนบ้านมากกว่า แต่คำนี้ไม่ควรเอามาเป็นคำเหยียดเพศเหมือนอย่างในอดีตอีกต่อไป
ที่มา : CNN/THE GUARDIAN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง