เวียดนามเที่ยวไหนดี? ถ้าอยากสัมผัสอากาศเย็น ถ่ายรูปออกมาเหมือนอยู่ยุโรป แต่ค่าครองชีพต่างกันสุดๆ เฟรมขอแนะนำที่ “บานาฮิลล์” เลยจ้า
“อยากเที่ยวใกล้ๆ ใช้เวลาบินน้อย และงบไม่สูง” ใครกำลังมีโจทย์แบบนี้ บทความนี้คือคำตอบค่ะ
“เวียดนาม” เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เฟรมรู้สึกว่ามีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย แต่ละโซนก็จะตอบโจทย์ต่างกัน ที่นิยมตอนนี้ก็น่าจะมี “ซาปา” “ฮานอย” “โฮจิมินห์” “ฮอยอัน” “ญาจาง” และ “ดานัง” แต่ละที่ก็จะมี Mood and Tone ที่ต่างกันไปเลยนะ ธรรมชาติ ภูเขา ทะเล และความเจริญของเมือง
สำหรับ “บานาฮิลล์” เฟรมมองว่าเป็นเมืองที่ต่างออกไป เหมือนเป็นโลกที่แยกออกมาจากเวียดนามอีกหนึ่งชั้น เพราะเวลาที่เราไปก้าวขาขึ้นกระเช้าแล้ว เราจะไม่มีทางออกมาจากที่นั้นได้ นอกจากเราจะต้องกลับแล้วจริงๆ
บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) แต่เดิมเป็นที่พักตากอากาศของชาวฝรั่งเศสในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็มีสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับอิทธิพลมาจาก “ฝรั่งเศส” ในสมัยที่เป็นอาณานิคมตั้งแต่ปี ค.ศ.1919 แต่หลังจากสงครามที่ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ล่นถอยกลับไปที่นี่ก็กลายเป็นเมืองร้างมานานมาก จนในปี ค.ศ.2009 ก็ได้กลับมาเฉิดฉายในฐานะหมู่บ้านแห่งการท่องเที่ยวและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยประวัติแบบนี้จึงไม่แปลกกับคำที่ว่า “เที่ยวเวียดนามฟีลยุโรป” ก็เพราะชาวฝรั่งเศสเขาสร้างไว Vibes มันเลยปารีเซียงสุดๆ
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้เฟรมบินไปลงที่เมืองดานัง แล้วใช้บริการไกด์ท้องถิ่น + กับรถตู้พร้อมคนขับ (สะดวกมาๆเพราะคนขับรถที่พูดภาษอังกฤษ หรือ ภาษไทยได้มีน้อยมากค่ะ)
ที่จริงระยะทางจากดานังไปจุดขึ้นกระเช้าไม่ไกลนะคะ ประมาณ 40 กิโลเมตร แต่กฎหมายเขาจำกัดความเร็วแค่ 60 กม./ ชม. เท่านั้น ก็เลยใช้เวลาประมาณ 50 นาที และรถจะส่งเราได้แค่จุดขึ้นกระเช้าเพราะด้านบนไม่ให้นำรถขึ้นไป วิธีเดียวที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นไปด้านบนได้ก็คือ ต้องนั่งกระเช้าเท่านั้นค่ะ
ซึ่งกระเช้าลอยฟ้าเส้นทางนี้ เป็นการนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก 5,801 เมตร ระหว่างทางวิวสวนมาก ต้นไม้เยอะสุดๆ บางช่วงมีน้ำตกด้วย และการนั่งกระเช้าขึ้นไปที่นี่มีหลายสายมากๆนะคะ
เช่น สายที่ไปเพื่อเล่นสวนสนุก สายที่ไปเพื่อไหว้พระ สายที่ไปสะพานมือ หรือสายสำหรับผู้ที่พักกับโรงแรมด้านบน และเมื่อขึ้นไปข้างบนแล้ว การเดินทางไปเที่ยวยังที่ต่างๆก็จะใช้เป็นเส้นทางของกระเช้า (ฟรี) เขาคิดเราแบบเหมาไปกับกระเช้าแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อเราขึ้นไปกิจกรรมหลายๆอย่างไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีกเลยค่ะ (คล้ายๆกับเข้าสวนสนุก)
เราจำเป็นต้องพักด้านบนไหม หรือ แค่นั่งกระเช้าไปเที่ยวแล้วกลับมาพักที่เมืองดานัง ?
“พักสิ ต้องพักค่ะ” นี่คือคำตอบจากเฟรมอย่างมั่นใจ เพราะการพักด้านบนเราจะได้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ “บานาฮิลล์” ที่ปราศจากผู้คน หรือ นักท่องเที่ยวรายวันที่ขึ้นมากันเป็นพันๆคน
โรงแรมด้านบนของ “บานาฮิลล์” มีแค่โรงแรมเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ “MERCURE” และมักจะเต็มตลอดค่ะ (ต้องแพลนล่วงหน้านิดนึงนะคะ) แต่มีอีกหนึ่งวิธีที่เฟรมใช้ ก็คือเอเจนซี่ ค่ะ เพราะบริษัทเหล่านั้นเขาจะมีคอนเทคกับโรงแรม ถ้าห้องหลุด หรือทัวร์ไหนที่จองแต่ลูกค้าไม่เต็มก็จะสามารถตัดห้องมาให้เราได้ค่ะ
เคล็ดลับการเลือกห้องที่จะอยู่ใจกลางเมืองที่เดินไปไหนมาไหนสะดวกแนะนำเป็นตึก De Paris จะเป็นตึกที่มี Lobby มีห้องอาหาร และอยู่ติดกับทางเข้าโซนสวนสนุก ข้อเสียคือ เวลาที่นักท่องเที่ยวแบบ DAY TRIP ขึ้นมาจะวุ่นวาย และ คนเยอะมากๆค่ะ
คราวนี้มาดูกิจกรรมด้านบนกันบ้างดีกว่า ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
เยี่ยมชมเมืองหมู่บ้านฝรั่งเศส
อย่างแรกที่มาถึงนะคะ ก็คือการซึมซับบรรยากาศของหมู่บ้านฝรั่งเศส(ตึกของโรงแรมทั้งหมด) เดินถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อ เพราะฟีลยุโรปจริงๆค่ะ มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก โบสถ์ ร้านขายของที่ระลึก
สะพานมือยักษ์ (Golden Bridge)
Hilight ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้เยอะจริงๆ มักใช้เป็นภาพในการขายทัวร์เลยนะคะ เพราะที่นี่เป็นสะพานลอยฟ้าโค้งริมหน้าผาที่สวยงามมากที่สุดในโลก สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 150 เมตร จุดเด่นก็คือรูปปั้นมือขนาดใหญ่ที่กำลังทำท่าถือสะพานให้ผู้คนได้เดินชมความสวยงาม
** คำแนะนำสำหรับคนที่นอนด้านบนให้ไปกระเช้ารอบแรก ถ้าอยากได้รูปเดี่ยว แบบเดี่ยวจริงๆ ***
สวนสนุก Fantasy Park
เครื่องเล่นเกือบทั้งหมด เล่นได้ฟรีเลยค่ะ บางเครื่องก็สนุก บางเครื่องก็ไปเล่นให้รู้ แต่เครื่องที่อยากแนะนำก็คือ Alpine Coaster ที่คล้ายๆรถไฟเหาะ ที่นั่งได้ครั้งละ 2 คน แล้วก็ควบคุมความเร็วเองได้ ที่เฟรมชอบเพราะเราจะเห็นวิวของหุบเขา ทัศนียภาพที่สวยงาม แถมสนุกอีกด้วย
โรงบ่มไวน์ Debay Wine Cellar
สายดื่มต้องมา เพราะที่นี่ เป็นโรงบ่มไวน์ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี Debay Wine Cellar ถูกสร้างขึ้นให้เป็นห้องเก็บไวน์ที่อยู่ลึกลงไปเกือบ 100 เมตร และไวน์ที่นี่ได้ถูกเก็บรักษาไว้ในระดับอุณหภูมิ 16 – 20 องศา
เราสามารถเดินเข้าไปในถ้ำ ห้งอเก็บไวน์ และดูร่องลอยการบ่มไวน์ได้เขาจัดไว้เพื่อการศึกษา
และด้านบนก็จะมีที่นั่งชิลๆ ให้เรามองสวนดอกไม้สบายตาสุดๆ
สระว่ายน้ำในร่มชมวิว
สำหรับคนที่พักด้านบนเฟรมแนะนำให้ไปใช้สระว่ายน้ำของโรงแรมด้วยนะคะ ซึ่งสระว่ายน้ำจะตั้งอยู่แบบ แสตนอโลน ด้านในก็จะมีกิจกรรมให้เล่นสนุกสนานและสามารถชมวิวจากสระน้ำได้ด้วย
คำแนะนำสำหรับผู้ที่พักด้านบน
ร้านอาหารช่วงมื้อเย็นด้านบนจะมีร้านอาหารของโรงแรมไม่เพียงกี่ร้านและจะปิดเร็ว อีกหนึ่งตัวเลือกคือลานเบียร์ ที่จะสามารถนั่งชิลได้ ส่วนอาหารหนักจะไม่มี มีเพียง ไส้กรอก บาบีคิวนิดหน่อยเท่านั้น แต่ฟีลคือดีสุดๆ
และอย่าลืมเก็บเกี่ยวช่วงที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวแบบ ONEDAY TRIP ขึ้นมานะคะ เพราะช่วงนั้นหมู่บ้านของเราจะสงบสุข และถ่ายรูปได้สวยสุดๆ (นักท่องเที่ยวจะขึ้นมาช่วง 9.30 – 16.30 น.)
สำหรับเฟรมแล้วถือเป็นเมืองตากอากาศที่ดีมากๆ เพราะอากาศค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี บรรยากาศดี มีกิจกรรมให้ทำ แนะนำ 3 วัน 2 คืน จะสบายๆไม่แน่นจนเกินไป แต่สำหรับเรื่องของอาหารยังรู้สึกว่าไม่หลากหลายและตัวเลือกน้อยเกินไป ใครที่กินยากพกของกินที่ชอบไปเผื่อก็น่าจะดีมากๆค่ะ
ทุกคนสามารถติดตามการเดินทางครั้งต่อไปของเฟรมได้ที่นี่ Lifestyle Spring หรือทักทายกันได้ที่ IG:famframe
“พิธีกรที่หลงรักการเดินทาง เพื่อพบเจอ พูดคุย และได้ใช้กล้องที่รักเวลาออกทริป” by famframe