Nomophobia คือชื่อเฉพาะที่เรียกผู้มีพฤติกรรมเสพติดมือถือถึงขั้นที่เกิดความกังวลและหวาดระแวงเมื่อไม่มีโทรศัพท์พกติดตัว จนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันหรือความสัมพันธ์กับคนรอบตัว
พฤติกรรมเสพติดมือถือ หรือในภาษาอังกฤษเรียกกันว่า Nomophobia ที่มีมาจากคำว่า no - mobile - phone - phobia ถ้าแปลตามตัวก็คืออาการหวาดกลัว วิตกกังวลเมื่อขาดโทรศัพท์มือถือ หรือ ถึงขั้นติดเสพติดมือถือเข้าให้แล้ว ซึ่งทางการแพทย์ไม่นับว่าเป็นโรค โดยอาการที่เข้าข่าย โนโมโฟเบีย มีดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็ก7สัญญาณ ถ้ามีเตรียมเป็น คนติดโซเชียลเกินไป วิจัยชี้ผู้หญิงเป็นมากกว่า
สถิติน่าเหลือเชื่อ ที่ทำให้เห็นว่าคนทั่วโลก “เสพติดสมาร์ทโฟน”
ข่าวปลอม! โทรศัพท์มือถือส่งผลต่อคลื่นสมอง ทำให้สภาวะก่อนนอนไม่สงบ หลับยาก
ข้อมูลจากเว็บไซต์ becoming minimalist เปิดเผยสถิติพบว่า
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวที่ว่ามาอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำของตัวเองและกับคนรอบข้าง เช่น ส่งผลต่อความจำระยะสั้นและการแก้ปัญหา, คุณภาพของบทสนทนา, พฤติกรรมการนอน, ในเด็กเล็กอาจมีผลต่ออารมณ์ด้านลบ การฟื้นคืนอารมณ์จากลบเป็นบวกมีประสิทธิภาพน้อยลง รวมถึงมีผลกับการทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ทั้งยังมีพบว่าการติดมือถือมีแนวโน้มความสัมพันธ์กับอารมณ์ซึมเศร้าด้วยเช่นกัน
ใกล้เข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่า หลายๆ คนก็อาจจะลิสต์หัวข้อที่ต้องการตั้งปณิธาน การเปลี่ยนแปลง หรือ เป้าหมายที่อยากบรรลุในปีต่อไป หรือ ที่เรียกว่า New Year Resolution กันรอไว้แล้ว สำหรับใครที่อยากเริ่มต้น Social Detox หรือ ปรับพฤติกรรมการเสพติดมือถือ อันเป็นสาเหตุของ สมาธิการทำงานที่มีคุณภาพน้อยลง หรือ กระทบความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว
เรามีสรุปเคล็ดลับ 7 ข้อเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ดังนี้
อย่างไรก็ตาม แม้โทรศัพท์มือถือมีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีและความสะดวกสบายที่อัดลงเครื่องมือสื่อสารเครื่องเดียว จนเราก็เผลอตัว ไปกับหน้าจอมากขึ้นๆ การหาเวลาห่างจากหน้าจอบ้าง ก็อาจช่วยให้เราสังเกตคนรอบตัว ใช้เวลากับคนใกล้ตัวมากขึ้น ได้เวลาทดแทนมาปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน คนรัก ครอบครัวได้เต็มที่
ที่มา