แคนดี้ รากแก่น ฝ่าคำดูถูก ดาราตกอับ ปลดหนี้จับเงินล้านจากโลกออนไลน์

เต็มตัวในช่วงที่งานแสดงและธุรกิจออแกไนซ์ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เกิดหนี้สินก้อนโต จากจุดเริ่มต้นที่ "แคนดี้" ตัดสินใจลุกขึ้นไลฟ์สดเพื่อคลายเครียดด้วยนำของส่วนตัว เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า กระเป๋า และมาขายออนไลน์ จนสามารถปลดหนี้และสร้างโอกาสให้เธอสามารถจับเงินล้านได้ในเวลาไม่นาน อะไรคือสูตรความสำเร็จ และนี่คำตอบที่คุณไม่ควรพลาด

จากนักร้องศิลปินสู่โลก “แม่ค้าออนไลน์”

"เอาตามตรงเลยก็คือน่าจะเป็นวิกฤตโควิด วิกฤตโควิดทำให้หลายๆ คนเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไป เพราะว่างานประจำที่ทำอยู่ทำไม่ได้ ในวันที่โควิดเข้ามาสู่ประเทศไทยตอนนั้นแคนดี้มีอาชีพ 2 อาชีพ ซึ่งเราคิดว่าถ้าไม่อันนึงก็อันนึงต้องอยู่รอด เราทำทั้ง 2 อัน ล้มทั้ง 2 อัน

ในช่วงเวลานั้นทำงานอะไรไม่ได้เลย สิ่งหนึ่งทำก็คือทุกคนเห็นอยู่แล้วแคนดี้เป็นศิลปินเป็นนักร้อง อีกอันนึงทำออแกไนซ์เซอร์ ปรากฎว่าล้มพร้อมกันเลยแบบไม่ได้ตั้งตัวแล้วช่วงนั้นเป๋มากๆ แต่ว่าความที่เราเป็นคนที่ชอบคุยชอบสนุกอยู่แล้ว"

แล้วพอช่วงโควิดมันเครียดทุกย่างมันล้มๆ มันแบบงานที่เราคิดว่าจะได้แล้วก็ลงทุนไปล่วงหน้าแล้วมันเกิดเป็นหนี้สิน สร้างความเครียดให้เราทำยังไงเราก็เลยมาเริ่มคลายเครียดให้ตัวเองด้วยการไลฟ์ พอเริ่มไลฟ์ปุ๊บ จริงๆ ตอนนั้นก็คือไม่มีเงินแล้วแต่เรายังต้องเลี้ยงครอบครัวทุกคนในบ้าน ลูกน้องต้องอยู่ยังไง เราก็เอาสิ่งที่เรามีอยู่นะคะ เราก็เลยของเหล่านั้นมาแปลให้เป็นเงินเพื่อความอยู่รอด

ในช่วงแรกขายเลยของมือสอง เสื้อผ้า สูท ชุดแสดง ลามไปเรื่อยๆ จนถึงกระเป๋าของรักของเราสุดท้ายแล้วนิ มันไม่เหลืออะไรแล้วขายหมดเลย ก็ต้องขายก็เลยขายไปปรากฎว่าของรักของเรามันช่วยชีวิตเราในวันนั้น กระเป๋าที่เราซื้อที่เราสะสมมาขายได้เกือบสี่ล้านบ้าน

โดนดูถูก “ดาราตกอับขายของเก่ากิน”

"ตกอับแล้วใช่ไหม ไม่มีจะกินแล้วใช่ไหม ขายของเก่าแล้วใช่ไหม อีกหน่อยก็ขายตัว มาหมดทุกคำค่ะ คำดูถูกพวกเนี่ยผ่านเลย ไม่เห็นมีความหมายอะไรในชีวิตเลย จริงๆ นะ ในโลกโซเชียลคนชมน้อยก็กว่าคนด่าถูกไหมคะ คนชมชื่นชมเขาเก็บมองปรบมือให้อยู่บ้าน แต่คนด่าเขามีโอกาสสนุกปากด่าเราปึ้ง จนกระทั่งวันนึงเรารู้สึกว่าเขาเป็นใครว่ะ"

"คือจริงๆ แค่เขาบอกว่าเราเป็นดาราตกอับเราก็รู้สึกแล้วว่าเวทนาเขานะ เราพูดคำนี้เลยนะ เวทนานะ โถ…ลูกเวทนาจังเลยหนูลองมาทำเหมือนเราไหม ทำเหมือนแม่ไหมลูกจากคนไม่เคยหยิบเงินล้าน วันนี้แม่มีเงินล้านใช้หนี้ใช้สินเลี้ยงดูคนในครอบครัว เลี้ยงดูแม่ให้มีความสุขได้ทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาบอกว่าเราตกอับ"

“เปิดใจ-ปรับตัว” คือความสำเร็จโลกออนไลน์

"ทุกวันนี้โอกาสอยู่ที่ปลายมือจริง ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ไม่มีโลกโซเชียลคำนี้พูดเลยนะโอกาสไม่มีๆ ทุกวันนี้โอกาสอยู่กับทุกคนเลยค่ะ เพราะทุกคนเล่นมือถือโซเชียลก็คืออากาศ อากาศเท่ากับโอกาส เพราะฉะนั้นแคนดี้มองว่าตรงนี้โอกาสอยู่ที่ตัวคุณแล้ว ทุกคนสามารถที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรก็ได้ หากมองว่าฉันนอนอยู่บ้านเฉยๆ โอกาสไม่วิ่งมาหาโอกาสยังมาเลยถ้าคุณเปิดมือแล้วคุณเปิดใจสักนิดนึงยอมรับว่าฉันทำได้ลองดู เชื่อไหมโอกาสของแคนดี้ก็เกิดจากตรงนี้เหมือนกันโอกาสไม่ได้วิ่งมาหาแคนดี้เลยสักนิดนะคะ

"แคนดี้เจอคนพูดอย่างนี้กับแคนดี้เยอะมาก แม่หนูอยากเริ่มต้นแต่หนูไม่ใช่ดารา ปัดโธ่อย่ามองสิก็ลืมภาพความ แคนดี้ รากแก่น ความเป็นดาราออกไปสิ ถูกป่ะ คุณไปค้นหาความเป็นตัวตนของคุณสิแล้วทำให้คนเห็น ทุกวันนี้ถามว่าคนดังๆ บางคนไม่ใช่ดาราสักหน่อย แต่เขาโชว์ศักยภาพของตัวเองและหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำอะไรก็แล้วแต่ก็คือความสม่ำเสมอ ไม่ย่อท้อ อันนี้สำคัญมาก"

"เห็น แคนดี้ รากแก่น อย่างนี้คนดูแรกๆ 10 คนเองนะ 10-20 คนนะคะ เปิดเพจมาขาย ตอนที่เปิดใช้เฟซ แคนดี้ รากแก่น คนดูหลักร้อยหลักพันใช่ เอาล่ะจะเป็นแม่ค้าแล้วนะเปิดเพจขึ้นมา เจ้าแม่ถูกและดี โดย แคนดี้ รากแก่น ปังคนดู 12 คน ถามว่าต้องท้อไหม ถ้าเรามองเป็นมุมเรามุมที่เราอยู่ตรงนี้แล้วสูงแล้ว แล้ววันนี้เรามาขายของแล้วคนดูเราน้อยมากเราจะท้อไหม กับคุณๆ ไม่ได้เป็นดาราอยู่ตรงเนี่ย แล้วคนดูเท่ากันกับเราเลย มันต้องเป็นแรงผลักให้คุณขึ้นมาสิ แคนดี้เชื่อว่าทุกคนเก่งแต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าความเก่งคือโอกาส"

"เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีโอกาสเข้ามาหยิบไว้ก่อน ทำได้ไม่ได้สำหรับเรานะ ทำได้ไม่ได้ไม่รู้หยิบไว้ก่อน ทำให้ดีที่สุดก่อน ทำให้ถึงสุดทางก่อนเราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดาย รู้งี้ คำว่ารู้งี้มันเกิดกับคนที่ทิ้งโอกาส แล้วเราเป็นคนที่ไม่ทิ้งโอกาสเลยถึงแม้ว่า บางเรื่องบางอย่างโอกาสนั้นมันจะทำให้เราเป๋ไปนาน แต่ในการที่เราเดินหลงทางระหว่างทางมันก็สอนอะไรเรามาตลอดถือเป็นบทเรียน"

“แม่ค้าออนไลน์” คือตัวตนและความสุข

"เราไม่เคยคิดว่าเราจะมีวันนี้ที่หลายๆ คนบอกว่าจะมีวันที่เราจะรวย มันจะมีวันที่เราสำเร็จอะไรอ่ะ ทำไมไม่เห็นเลยว่ะ ทำไมดูไม่ออกเลยจนกระทั่งมีโอกาสวิกฤต ที่เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส วันนี้เรามีความสุขมากเลยนะ มีความสุขในการที่ตื่นเข้ามาได้อยู่กับสิ่งที่เรารักได้อยู่กับคนที่เรารัก แล้วเราไม่ต้องไปใหน อยู่ในบ้านเวลาอยากกินข้าวแม่ตะโกนเรียกแม่ทำกับข้าวไว้รอความสุขของคนมันจะมีอะไรไปมากกว่าการที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารักและอยู่กับคนที่เรารัก นี่คือสิ่งที่สูงสุดในชีวิตเราล่ะ"

"แต่หนึ่งสิ่งที่คุณแม่คอยย้ำเตือนเราเสมอก็คือว่าต้องรู้จักคำว่าพอ ถ้าเราไม่รู้จักคำว่าพอเนี่ยไปสูงตกลงมามันจะเจ็บแรงนะลูก จะบอกเราเสมอ เพราะฉะนั้นหนึ่งสิ่งที่เราคิดอยู่เสมอว่าวันเนี่ยเราต้องรู้จักคำว่าเราพอที่จุดไหน เราจะไม่ไปในจุดที่เราคิดว่าเหนื่อยเกินไปแล้วเนอะ ตรงนี้เรามีความสุขแล้วอ่ะ บางทีสูงขึ้นไปมันก็หนาวเกินไปยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ตรงนี้มันอบอุ่นดีนะลมมันกำลังเย็นๆ พอดีๆ มองไปก็เห็นคนของเราเยอะแยะไปหมด พื้นที่โอ้โหวิมานสวรรค์ เราเห็นบนเทือกเขามันสวยงามยังไงสวยอย่างงั้น"

"อยากจะลองขึ้นไปบนฟ้าจังเลยอ่ะ แต่ขึ้นไปมันยากจังเลยก็ไม่ไปดีกว่าและก็บอกตัวเองอย่างนี้ว่าต้องมีจุดนึงที่เรารู้สึกว่าเราพอแล้วเราเพียงพอเราพอดีกับตรงนี้แต่การพอดีตรงเนี่ยนั่นหมายความว่าฐานรากเราต้องมั่นคงนะ ตอนเนี่ยจากวิกฤตในวันนั้นอ่ะมันสร้างความเป็นเราในวันนี้มันทำให้เรายืนได้แต่อย่างที่บอกมุมมองเราต้องมี วิสัยทัศน์เราต้องมีไม่ใช่แค่ทำไปวันๆ ทำไปเพื่อหาเงินไปวันๆ ไม่ใช่"