svasdssvasds

ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 เริ่มแล้ว ผลตอบรับดี ลดงบกำจัดขยะได้ 300 ล้าน

ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 เริ่มแล้ว ผลตอบรับดี ลดงบกำจัดขยะได้ 300 ล้าน

ร้านนี้ไม่เทรวม ผลตอบรับดี ทำให้มีเฟส 2 มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการหลายราย ช่วยกทม.ลดขยะอาหารต่อเนื่อง รวมถึงลดงบประมาณในการกำจัดขยะได้มากกว่า 300 ล้านบาท

วันนี้ (26 ก.พ. 2568) กรุงเทพมหานครได้แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เฟส 2 ณ สุราลัยฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม หลัง “ร้านนี้ไม่เทรวม” เฟส 1 ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชน

ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 เริ่มแล้ว ผลตอบรับดี ลดงบกำจัดขยะได้ 300 ล้าน

ในช่วงที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้เผชิญหน้ากับปริมาณขยะมูลฝอยที่สูงถึงเกือบ 9,000 ตันต่อวัน โดยในจำนวนนี้ มากกว่า 50% เป็นขยะอินทรีย์และเศษอาหาร ซึ่งรู้ไหมว่า สาเหตุที่การจัดการในขยะในปัจจุบันเป็นไปได้ยาก หรือรีไซเคิลได้ยากนั้น ต้นเหตุมาจากขยะที่เราทิ้งมีการปนเปื้อนเศษอาหาร ไม่สะอาด ทำให้ขยะเหล่านั้นสูญเปล่า ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ และสุดท้ายต้องไปจบที่หลุมฝังกลบเหมือนเดิม

ด้วยเหตุนี้ ในปี 2567 กรุงเทพมหานครจึงได้จัดทำโครงการไม่เทรวม มุ่งเน้นให้ประชาชนและภาคธุรกิจร่วมกันแยกขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไป ลดการปนเปื้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะ โดยโครงการนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สามารถช่วยให้กรุงเทพมหานครลดปริมาณขยะลงได้ต่อเนื่อง รวมถึงลดงบประมาณในการกำจัดขยะได้มากกว่า 300 ล้านบาทแล้ว

ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 เริ่มแล้ว ผลตอบรับดี ลดงบกำจัดขยะได้ 300 ล้าน

เพียงแค่ประชาชนอาจไม่เพียงพอ ธุรกิจร้านค้าก็เป็นอีกแหล่งกำเนิดขยะมหาศาล ทั้งจากกระบวนการประกอบอาหาร (ขยะหลังครัว) และขยะที่เกิดจากการบริโภค (ขยะหลังกิน) ซึ่งกรุงเทพฯ มีร้านอาหารจำนวนมาก หากธูรกิจเหล่านี้สามารถแยกขยะตั้งแต่ต้นทางได้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ และก็เป็นจุดเริ่มต้นสู่ระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพระยะยาว

เพื่ออยากให้ขยะร้านค้าถูกจัดการได้มีประสิทธิภาพขึ้น กรุงเทพมหานครจึงจัดทำโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เพื่อขยายความร่วมมือกับธุรกิจร้านอาหาร โดยจะมีการจัดทำระบบบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 600 ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ Greener Bangkok ได้ เป็นแหล่งข้อมูลที่ให้ประชาชนสามารถเลือกอุดหนุนร้านอาหารที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม

ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 เริ่มแล้ว ผลตอบรับดี ลดงบกำจัดขยะได้ 300 ล้าน

นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ร้านอาหารถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการลดปัญหาขยะในเมือง เพราะร้านอาหารถือเป็นศูนย์กลางการบริโภคของคนเมือง และก็เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกมหาศาล ปัจจุบัน กรุงเทพฯมีร้านอาหารจำนวนมาก หากสามารถจัดการขยะโดยการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ก็จะช่วยลดขยะที่ต้องกำจัดและช่วยลดค่าใช้จ่ายของกรุงเทพมหานครได้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของเมืองที่สะอาดขึ้นด้วย”

ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 เริ่มแล้ว ผลตอบรับดี ลดงบกำจัดขยะได้ 300 ล้าน

นอกจากนี้ ในการดำเนินโครงการนี้ ทาง LINE MAN Wongnai ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารใน LINE MAN Wongnai ทีมีในแพลตฟอร์มทั่วประเทศกว่า 700,000 ร้าน มีส่วนร่วมในโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดการขยะที่เหลือในร้านอาหารอย่างถูกต้องและเหมาะสม

ซึ่งในอนาคต ลูกค้าที่สั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มไลน์แมน จะสามารถตรวจสอบและช่วยสนับสนุนร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” ได้ โดยจะมีสัญลักษณ์พิเศษมอบให้ บนแอปพลิเคชัน LINE MAN 

ด้านบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ให้ความร่วมมือกับโครงการร้านนี้ไม่เทรวมเป็นอย่างดี ด้วยการขยายความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการร้านอาหารในศูนย์ฯ และใน “ร้านนี้ไม่เทรวม” เฟส 2 นี้คาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น ช่วยสนับสนุนให้กรุงเทพฯมุ่งสู่เป้าหมาย “เมืองขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste City)” ได้เร็วมากยิ่งขึ้น

ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 เริ่มแล้ว ผลตอบรับดี ลดงบกำจัดขยะได้ 300 ล้าน

อย่างไรก็ตาม การจัดทำบัญชีรายชื่อร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” ยังมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลและคาดการณ์ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากร้านอาหารในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้การออกแบบเส้นทางการเก็บขยะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยปรับปรุงและบริหารงบประมาณในการจัดการขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 เริ่มแล้ว ผลตอบรับดี ลดงบกำจัดขยะได้ 300 ล้าน

สุดท้ายโครงการร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2 มาพร้อมกับนโยบายใหม่ คือมาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมขยะรูปแบบใหม่ของกรุงเทพมหานครที่จะเริ่มใช้ในเดือนตุลาคม 2568 โดยกรุงเทพมหานครนี้ด้วย

กทม.ได้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามประเภทของผู้ก่อขยะ ดังนี้

กลุ่มที่ 1 (Size S ) : บ้านเรือนที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน โดยมีการเก็บและขนส่ง 30/เดือน + ค่ากำจัด 30 บาท/เดือน = รวม 60 บาท/เดือน

กลุ่มที่ 2 (Size M) : ร้านอาหารและร้านสะวดกซื้อที่มีขยะ เกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศ์กเมตรต่อวัน โดยมีค่าเก็บและขนส่ง 60 บาท/20 ลิตร + ค่ากำจัด 60 บาท/20 ลิตร = รวม 120 บาท/20 ลิตร

กลุ่มที่ 3 (Size L) : ห้างสรรพสินค้า ตลาด โรงแรม และสถานประกอบการที่มีขยะเกิน 1 ลูกบาศ์กเมตรต่อวัน โดยมีค่าเก็บและขนส่ง 3,250 บาท/ลูกบาศ์กเมตร + ค่ากำจัด 4,750 บาท/ลูกบาศ์กเมตร = รวม 8,000 บาท/ลูกบาศ์กเมตร

มาตรการนี้ จะช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กและกลางมีระบบการแยกขยะชัดเจน สามารถลดต้นทุนด้านค่าธรรมเนียมการกำจัดขยะได้ หากแยกอย่างถูกต้อง หากร้านไหนสนใจเข้าร่วมโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” สามารถสมัครมาได้ที่ Greener Bangkok

related