svasdssvasds

โคคา-โคลา อาจใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์เพิ่ม หลัง “ทรัมป์” ขึ้นภาษีเหล็ก 25%

โคคา-โคลา อาจใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์เพิ่ม หลัง “ทรัมป์” ขึ้นภาษีเหล็ก 25%

“โคคา-โคลา” เผยอาจเพิ่มการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% ซึ่งอาจส่งผลทำให้ราคาอาหารกระป๋องและเครื่องดื่มกระป๋องในประเทศ เพิ่มสูงขึ้น

SHORT CUT

  • โคคา-โคลา เปิดเผยว่า บริษัทอาจต้องเพิ่มการใช้พลาสติกกับบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มของตัวเองที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา หากการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มต้นทุนกระป๋องอะลูมิเนียมให้สูงขึ้น

  • บริษัทนำเข้าอะลูมิเนียมสำหรับผลิตกระป๋องเครื่องดื่มจากแคนาดา ซึ่งบริษัทจะต้องมองหาวิธีอื่น ๆ ในการลดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากภาษีศุลกากรและอาจถูกบังคับให้เปลี่ยนไปใช้ขวดพลาสติกในการบรรจุเครื่องดื่มสุดซ่ายอดนิยมแทน

  • นักวิจัยและกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ระบุว่า โคคา-โคลา เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สร้างมลพิษมากที่สุดในโลกจากการเป็นต้นตอของการผลิตขยะพลาสติก

“โคคา-โคลา” เผยอาจเพิ่มการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% ซึ่งอาจส่งผลทำให้ราคาอาหารกระป๋องและเครื่องดื่มกระป๋องในประเทศ เพิ่มสูงขึ้น

โคคา-โคลา เปิดเผยว่า บริษัทอาจต้องเพิ่มการใช้พลาสติกกับบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มของตัวเองที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา หากการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มต้นทุนกระป๋องอะลูมิเนียมให้สูงขึ้นคำเตือนของบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่รายนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากต่างประเทศ ในอัตรา 25% ซึ่งอาจเป็นความเคลื่อนไหวที่ผลักให้ราคาอาหารและเครื่องดื่มกระป๋องปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

เจมส์ ควินซีย์” (James Quincey) ผู้บริหารระดับสูงของโคคา-โคลา เปิดเผยว่า บริษัทนำเข้าอะลูมิเนียมสำหรับผลิตกระป๋องเครื่องดื่มจากแคนาดา ซึ่งหมายความว่า บริษัทจะต้องมองหาวิธีอื่น ๆ ในการลดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากภาษีศุลกากรและอาจถูกบังคับให้เปลี่ยนไปใช้ขวดพลาสติกในการบรรจุเครื่องดื่มสุดซ่ายอดนิยมแทน

โคคา-โคลา อาจใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์เพิ่ม หลัง “ทรัมป์” ขึ้นภาษีเหล็ก 25%

 

ผู้บริหารระดับสูงของโคคา-โคลา กล่าวกับนักลงทุนว่า จากการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการรับประกันขีดความสามารถในการใช้จ่ายและความต้องการของผู้บริโภค หากบรรจุภัณฑ์หนึ่งมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น บริษัทยังมีตัวเลือกบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ที่จะช่วยโคคา-โคลาให้สามารถแข่งขันในพื้นที่ที่ผู้บริโภคมีกำลังจ่ายได้ ตัวอย่างเช่น หากกระป๋องอะลูมิเนียมมีราคาแพงขึ้น บริษัทก็สามารถเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับขวดพลาสติกมากขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม โคคา-โคลา ยังพยายามลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมาจากภาษีศุลกากรต่อธุรกิจ โดยระบุว่า บรรจุภัณฑ์คิดเป็นเพียงองค์ประกอบเล็ก ๆ ของโครงสร้างต้นทุนทั้งหมด ในธุรกิจเครื่องดื่มมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯก่อนหน้านี้ในปี 2018 “ทรัมป์” เคยประกาศตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากต่างประเทศ ในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แม้ว่าผู้ผลิตกระป๋องเครื่องดื่มหลายรายจะได้รับการยกเว้นจากมาตรการลงโทษในครั้งนั้นก็ตาม แต่ในครั้งนี้ “ทรัมป์” ยืนกรานว่าจะบังคับใช้ภาษีศุลกากรอย่างถ้วนหน้าโดยไม่มีข้อยกเว้น

นักวิจัยและกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ระบุว่า โคคา-โคลา เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สร้างมลพิษมากที่สุดในโลกจากการเป็นต้นตอของการผลิตขยะพลาสติก และจัดให้เป็นแบรนด์สินค้าที่ก่อมลพิษพลาสติกสูงที่สุดในโลก 6 ปีติดต่อกัน ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ค่อย ๆ ปรับเพิ่มปริมาณเครื่องดื่มที่จำหน่ายในกระป๋องอะลูมิเนียมมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายด้านการตลาดและความยั่งยืนของบริษัทแม้อะลูมิเนียมจะแพงกว่า แต่กระป๋องอะลูมิเนียมก็สามารถนำมารีไซเคิลได้มากกว่าขวดพลาสติกเมื่อเวลาผ่านไป

โคคา-โคลา อาจใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์เพิ่ม หลัง “ทรัมป์” ขึ้นภาษีเหล็ก 25%

อย่างไรก็ตามรายงานด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท ฉบับล่าสุด กลับพบว่า ในปี 2023 มีเครื่องดื่มของโคคา-โคลาที่จำหน่ายในบรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียมและเหล็กอยู่ที่ 26% เท่านั้น เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากในช่วง 2 ปีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน เครื่องดื่มเกือบครึ่งหนึ่งหรือราว 47.7% ของโคคา-โคลา วางขายด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติกในปี 2023

นอกจากนี้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โคคา-โคลา ยังได้ปรับลดเป้าหมายความยั่งยืนที่จะใช้วัสดุรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์ครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 ลงมาอยู่ที่ 35-40% ภายในปี 2035 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของโคคา-โคลายังมีขึ้นหลังจาก “ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารอนุญาตให้กลับไปใช้หลอดพลาสติก ยุตินโยบายการใช้หลอดกระดาษของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการยุติการซื้อพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งของรัฐบาลกลาง

 ที่มา: Guardian, BBC

https://www.theguardian.com/business/2025/feb/12/coca-cola-says-trump-tariffs-could-force-it-to-increase-use-of-plastic-in-us

https://www.bbc.com/news/articles/c3vp4dp90qqo

Credit ภาพ: Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related