SHORT CUT
สื่อต่างประเทศตีข่าวว่าคณะกรรมการโอลิมปิกพิจารณาไม่เสิร์ฟเมนูตับห่านให้กับนักกีฬา เนื่องจากมองว่าเป็นเมนูอาหารที่ต้องแลกมากับการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งขัดกับจริยธรรม และหลักการที่โอลิมปิกปารีสยึดถือ SPRiNG ชวนอ่านเบื้องหลังวิธีทำเมนูตับห่าน
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเมนูอาหารในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก 2024 นั้นมีคุณภาพต่ำ และมีปริมาณไม่เพียงพอสำหรับนักกีฬา ทั้งนี้ มีหลายชาติที่คาดการณ์ถึงปัญหานี้ไว้อยู่แล้ว จึงขอพกทีมเชฟไปทำอาหารให้กับนักกีฬาด้วยตัวเอง อาทิ เกาหลีใต้ หรือสหราชอาณาจักร
แต่นอกเหนือจากประเด็นเรื่องอร่อยไม่อร่อย หรือมีน้อยมีเยอะ อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องชื่นชมผู้จัดงานโอลิมปิกคือ ไม่เสิร์ฟตับห่าน หรือ ฟรัวกราส์ เพราะว่าไม่สนับสนุนการทรมาณสัตว์ ลดขยะอาหาร (Food Waste) และเพิ่มอาหารประเภทแพลนท์เบสต์ให้กับนักกีฬา และแฟน ๆ ที่เข้าชมการแข่งขัน
Foie Gras ในภาษาฝรั่งเศสมีความหมายว่า “ตับอ้วน” คนที่เคยมีโอกาสได้รับประทานอาหารจานนี้ก็เคยบรรยายไว้ว่าตับห่าน หรือ ฟรัวกราส์ มัน นุ่ม ละมุ่นลิ้น นิยมเสิร์ฟในร้านประเภท Fine Dining และมีราคาค่อนข้างแพง
แต่กระบวนการได้มาซึ่งตับห่านนั้นนับว่าโหดร้ายมาก กระบวนการคือจะขุนห่านหรือเป็ดให้อ้วนตุบ จากนั้นสอดท่อแล้วฉีดอาหารจำพวกข้าวโพด หรือธัญพืชต่าง ๆ เข้าไปในท้องของพวกมัน 3 ครั้งต่อวัน สิริรวมแล้ว 2 กิโลกรัมต่อวัน
กระบวนที่ว่าจะทำให้ตับหรือห่านมีตับใหญ่ขึ้นกว่าปกติ 10 เท่า และที่สำคัญคือพวกมันจะถูกขังไว้ในที่แคบ ผลที่ตามมาคือเหยื่อมนุษย์รายนี้เกิดความเครียด ขนหลุดร่วง ซึ่งตรงนี้แหละที่หน่วยงานด้านพิทักษ์สัตว์ หรือแม้แต่ประชาชนเองก็เห็นตรงกันว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยใช่เหตุ
เรื่องราวเบื้องหลังเมนูสุดหรูจานนี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ทางคณะกรรมการโอลิมปิกพิจารณาไม่เสิร์ฟตับห่านให้กับนักกีฬา เนื่องจากโอลิมปิกในครั้งนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน และจะทำร้ายสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด
คุณละ...คิดเห็นอย่างไร ยังกินตับห่านอยู่ไหม แม้รสชาติอร่อยปานใด แต่เมื่อนึกถึงภาพตับหรือห่านที่ต้องทนทุกข์ทรมานจะยังลิ้มรสตับของพวกมันลงอยู่หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง