แกะสูตรสำเร็จ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ทำ ESG ให้ปัง ต้องใช้นวัตกรรมเชื่อมโยงลูกค้า

ต้องยอมรับว่าในแวดวงธุรกิจตอนนี้ไม่มีใครไม่พูดถึงเรื่อง ESG เพราะคือเทรนด์ที่ภาคธุรกิจต้องทำเพื่อโลก เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต จึงทำให้หลายภาคส่วนต้องเดินหน้าในเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง โดยในงาน Innovation Keeping the World 2024 นวัตกรรม ยั่งยืน สู้ภาวะโลกเดือด จัดขึ้นโดย สปริงนิวส์ ก็นับว่าเป็นอีกงานหนึ่งที่เป็นเวทีที่เดินหน้าเรื่องความยั่งยืนอย่างเข้มข้น

หนึ่งในไฮไลท์ ที่สำคัญคือ “นที ศรีรัศมี” ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส DIGITAL RETAIL & STRATEGIC ALLIANCE บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยในงานสัมมนา Innovation Keeping the World 2024 นวัตกรรม ยั่งยืน สู้ภาวะโลกเดือด จัดขึ้นโดย “สปริงนิวส์” ว่า ESG เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำธุรกิจในยุคนี้ ภาคธุรกิจหากช่วยกันรักษ์โลก นอกจากจะทำเพื่อโลก เพื่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังจะช่วยให้แบรนด์เติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากคนรุ่นใหม่ที่เป็นลูกค้ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป คือต่อให้สินค้าแพงแค่ไหนก็จะซื้อ ขอเพียงแค่สินค้าและบริการเหล่านั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็ยอมจ่ายได้

 

สำหรับภาคธุรกิจที่จะทำ ESG ต้องเริ่มชั่งน้ำหนักที่ตัวเราก่อนวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ขององค์กรของเราก่อน จากนั้นค่อยขยับไปยังเป้าหมายที่สูงขึ้นไปจนถึงความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 ให้ได้ ทั้งนี้องค์กร หรือภาคธุรกิจจะต้องมีการพูดคุยกับพนักงานในองค์กร มีการระดมสมองหาไอเดียร่วมกัน ให้ทุกคนมีส่วนร่วม จะทำให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น

ทั้งนี้ในส่วนของ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ได้ให้ความสำคัญเรื่อง ESG ตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ผ่านโครงการต่างๆมากมาย ทั้งทำด้วยตนเอง และร่วมกับพันธมิตร ให้ธุรกิจมีการผ่านมาตรฐาน ISO ที่เกี่ยวข้องการรักษาสิ่งแวดล้อม การกำจัดขยะ การรักษาสุขอนามัย อย่างเช่น โครงการไม่แจกถุงพลาสติก นับว่าเป็นห้างสรรพสินค้าแรก และซูเปอร์มาร์เกตปลอดถุงพลาสติกแห่งแรกในประเทศไหไทย เปิดตัวโครงการ เดอะมอลล์ กรุ๊ป โก กรีน (THE MALL GROUP GO GREEN) : GREEN EVERYDAY งดบริการถุงพลาสติกทุกวัน และรณรงค์ให้ลูกค้านำถุงผ้ามาช้อปปิ้ง หากลูกค้ามีความจำเป็นใช้ถุงพลาสติก ขอความร่วมมือบริจาค 1 บาทต่อถุง เพื่อนำไปสนับสนุนการทำงานด้านการอนุรักษ์สั่งแวดล้อมต่อไป

นอกจากนี้ยังโครงการอื่นๆ มากมาย เช่น โครงการชวนบริจาคขวดพลาสติก PET แยกขวดช่วยหมอ เพื่อตัดเป็นชุด PPE ให้บุคลากรทางการแพทย์ โครงการส่งเสริมนวัตกรรมในการรับมือโลกร้อน ในรูปแบบต่างๆ เช่น โครงการประกวดนวัตกรรมการจัดการพลาสติกเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและทะเล พร้อมกันนี้ได้ร่วมกับ กทม. ผนึกกำลัง เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดตัวโครงการ "The First Bangkok Zero Waste Park" ต้นแบบสวนสาธารณะบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืนแห่งแรกในประเทศไทย ณ อุทยานเบญจสิริ

ไม่เพียงเท่านี้ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ยังให้ความสำคัญเรื่องการจัดการขยะ การปลูกต้นไม้ ทั้งที่ทำเอง และที่เข้าไปทำร่วมกับหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น ได้มีการมอบต้นไม้ 1 แสนต้น ให้กับ กทม. และมีการไปปลูกต้นไม้เองที่จ.น่าน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน และพลังงานสะอาด อย่างเรื่อง EV Charger ที่เข้ามาติดตามห้างสรรพสินค้าในเดอะมอลล์ กรุ๊ป

นอกจากนี้ยังเดินหน้าติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ในห้างสรรพสินค้าที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม ส่วนห้างสรรพค้าเก่าที่โครงสร้างพื้นฐานไม่พร้อมก็จะปลูกผักบนหลังคา ช่วยให้ลดความร้อนได้ ผักที่ได้ก็แจกจ่ายพนักงานไปทำอาหาร จนทำให้ได้รับรางวัลอาคารประหยัดงาน ในประเภทที่เป็น ศูนย์การค้า ห้างสรรพค้า ติดกัน 10 ปีซ้อน จากการไฟฟ้านครหลวง

ที่สำคัญจะให้ความสำคัญกับนวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีโครงการที่ประสบความสำเร็จมากมาย เช่น โครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน ด้วยการสร้างการรับรู้และส่งเสริมการเลือกซื้อสินค้าฉลากคาร์บอนเพื่อลดโลกร้อน ถือเป็นรีเทลแห่งแรกในประเทศไทยที่จัดตั้งโครงการขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการสร้างระบบนิเวศน์ทางธุรกิจและเทคโนโลยีที่ใช้ Deep Tech ในการวัดผลการลดปริมาณคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม บวกกับแคมเปญการตลาดที่ส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้สิทธิประโยชน์แต้มพอยท์สะสม ไปพร้อมกับแต้มบุญรักษ์โลก

โดยโครงการฉลากคาร์บอนนี้เริ่มต้นให้ลูกค้าเน้นซื้อของที่มีฉลากคาร์บอน ที่ กูร์เมต์มาร์เก็ต ทุกสาขา โดยสังเกตสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนก่อนหยิบใส่ตะกร้า ฉลากมี 2 แบบคือ ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ลดโลกร้อน (สีทอง) กับฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (สีฟ้า) โดยง่ายๆ คือ ลูกค้ามี Mobile Application และสามารถสแกนดูว่าสินค้าที่กำลังจะซื้อเกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์เท่าไหร่ พร้อมกันนี้ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก็จะได้สิทธิประโยชน์ รับส่วนลด ของรางวัลได้  สะสมแต้ม ได้นำไปแลกของรางวัลส่วนลดได้ 

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ “The Cupboard to Fight Food Waste” บนกูร์เมต์ มาร์เก็ต แอปพลิเคชัน คัพบอร์ดออนไลน์บนมือถือ ที่ช่วยแจ้งเตือนให้บริโภคสินค้าก่อนหมดอายุ พร้อมมีระบบประมวลผลที่สามารถช่วยโลกลดปัญหาขยะอาหารได้ โดยแอปฯจะแจ้งเตือนเป็นระยะๆ เช่น 15 วันจะหมดอายุแล้วนะ เพื่อให้เราไม่ลืม ใครสามารถไม่ทิ้งของเลยในแอปฯจะมีแต้มให้พิเศษ หรือมาซื้อของออนไลน์ครั้งหน้าฟรีค้าส่ง

อย่างไรก็ตาม เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ร่วมรณรงค์การลดใช้พลาสติก รณรงค์คัดแยกขยะก่อนทิ้งส่งกลับสู่กระบวนการรีไซเคิล เปลี่ยนขยะรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบต่างๆ ผ่านโครงการ “The Mall Group Go To Zero : Plastic Drop Point” จุดคัดแยกขยะพลาสติก เพียงลูกค้านำขวดพลาสติกมาหย่อนที่ตู้ของก็สามารถสะสมคะแนน สามารถนำไปแลกเป็นเครื่องดื่มโค้กฟรีได้ นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีมาพัฒนา Mobile Application ที่ลูกค้าสามารถสแกนดูโปรโมชั่นต่างๆ ของห้างสรรพสินค้าได้ ลดการใช้ป้ายบอกโปรโมชั่นที่หน้าร้าน ช่วยลดขยะได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เดอะมอลล์ จับมือ เทลสกอร์ เปิดประสบการณ์ช้อป "A HAPPY PLACE TO LIVE LIFE”

• เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค ปักหมุดเป็น New Destination กรุงเทพฝั่งตะวันตก

• พลิกวงการค้าปลีกไทย พายลโฉม 3 ห้าง "เดอะมอลล์ กรุ๊ป" โฉมใหม่ ครบจบที่เดียว