พามาดูห้างรักษ์โลก ของกลุ่ม“สยามพิวรรธน์” ที่ถือว่าเป็น Net Zero Shopping Mall แห่งแรกของไทย! ล่าสุดเข้าร่วมแข่งเก็บขยะชิงแชมป์โลก วันนี้จะพาดูว่ากิจกรรมอื่นๆ ห้างในเครือนี้รักษ์โลกยังไง
ใครที่เป็นสายช้อปปิ้งคงจะรู้ห้างสรรพสินค้าในกลุ่ม “สยามพิวรรธน์” ที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน ปัจจุบันอ“สยามพิวรรธน์” เดินหน้าอย่างจริงจังสู่ห้างรักษ์โลก เป็นมิตรกับสิ่งงแวดล้อม ตามเทรนด์โลก และผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมตั้งเป้าพร้อมเป็น Net Zero Shopping Mall แห่งแรกของไทย! โดย กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีก เจ้าของและผู้บริหาร สยาม พารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ได้เดินหน้าสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกแห่งแรกในประเทศไทยที่ร่วมมือกับแบรนด์ดังและองค์กรชั้นนำระดับโลก ผนึกกำลังด้านความยั่งยืนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติร่วมกันอันเป็นการดำเนินธุรกิจตาม Global Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล
สำหรับไฮไลท์ของห้างรักษ์โลก ในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ล่าสุดได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระดับโลก กับการแข่งขันเก็บขยะชิงแชมป์โลก SPOGOMI WORLD CUP 2023 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สร้างสรรค์โดย Nippon Foundation ด้วยการสนับสนุนตัวแทนทีมชาติไทย ซึ่งเป็นทีมชนะเลิศจากการแข่งขัน SPOGOMI WORLD CUP 2023 THAILAND STAGE ที่จัดขึ้นจากการผนึกกำลังของบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และจี ยู ครีเอทีฟ ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ณ สยามพารากอน
สำหรับการแข่งขันเก็บขยะชิงแชมป์โลก SPOGOMI WORLD CUP 2023 มีผู้เข้าแข่งขันรวมทั้งสิ้น 21 ประเทศทั่วโลก โดยทีมผู้เข้าแข่งขันจากสหราชอาณาจักรสามารถชิงรางวัลชนะเลิศไปครอง และทีมชาติไทยได้ลำดับที่ 12 ของการแข่งขันเพื่อสร้างความตระหนักรู้ทางด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกในครั้งนี้
ทั้งนี้นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นในการใช้ศักยภาพและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ร่วมกันขับเคลื่อนเมืองต้นแบบมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางที่ใส่ใจฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมใจกลางเมือง ผลักดันเรื่องพลังงานหมุนเวียน บริหารจัดการขยะแบบ 360 องศา ภายใต้โครงการ Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050
“เรายังนำจุดแข็งในด้านการจัดอีเวนต์ ที่มีอีเวนต์ระดับโลกเกิดขึ้นมากมาย ด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยผนึกกำลังพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชนจัดการแข่งขันกีฬาเก็บขยะครั้งแรกของประเทศไทย งาน SPOGOMI WORLD CUP 2023 THAILAND STAGE เพื่อเฟ้นหาตัวแทนประเทศไทยไปร่วมแข่งขันกีฬาเก็บขยะโลกที่ตัวแทนประเทศไทยได้มาร่วมแข่งขันในครั้งนี้”
อย่างไรก็ตามการดำเนินธุรกิจและบริหารโครงการต่างๆ ด้วยการปรับตัวเป็น Sustainable Business ภายใต้กลยุทธ์ Above the Ocean ว่า “เรามองธุรกิจในบริบทใหม่แบบไม่มีกรอบ ดำเนินธุรกิจโดยปราศจากคู่แข่งแต่เปี่ยมไปด้วยพันธมิตร สร้าง Ecosystem เพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า และเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนกับทุกภาคส่วน และยังพัฒนาศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กรเพื่อร่วมขับเคลื่อนมิติแห่งความยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น
โดยใช้ Above the Ocean คือกลยุทธ์ที่ทำให้เราพัฒนาจากหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์สู่องค์กรที่พร้อมสำหรับอนาคตที่จะสามารถเชื่อมธุรกิจ ผู้คน และโลก (Prosperity People Planet) เป็นหนึ่งเดียว ด้วยการสร้าง Ecosystem ที่ทุกฝ่ายในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ได้รับประโยชน์ และเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน
สำหรับในด้านสิ่งแวดล้อม หรือการฟื้นฟูโลก (Planet) ซึ่งเป็นเรื่องหลักในครั้งนี้ เป้าหมายของเราคือ เป็นแพลตฟอร์มของการฟื้นฟู (Regeneration Hub) เพื่อบริหารจัดการพลังงานและจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพที่ช่วยทำให้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น โครงการ Solar Rooftop การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียน และเป็นพลังงานสะอาด ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง โดยเราตั้งเป้าและประกาศไปแล้วว่าเราจะใช้พลังงานทดแทนให้ได้ 100% ในปี 2030
นอกจากนี้มีการจัดทำโครงการ Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste เพื่อส่งเสริมให้คนไทยจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เราใช้พื้นที่ภายในศูนย์การค้าเป็นจุดบริการรับขยะ Recycle Collection Center ; RCC ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร นำขยะที่ทำความสะอาดและคัดแยกแล้วส่งต่อเข้ากระบวนการรีไซเคิล และนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ หรือนำมาเข้าสู่กระบวนการอัพไซเคิล เพิ่มมูลค่าเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ อาทิ กระเป๋า เสื้อผ้า หมวก พวงกุญแจ ฯลฯ ซึ่งสินค้าส่วนหนึ่งวางจำหน่ายบนพื้นที่สำหรับสินค้ารักษ์โลกอย่าง Ecotopia
และเรายังขยายผลเปิดโอกาสให้ลูกค้าและประชาชนที่นำขยะมาฝากไว้ ณ จุด RCC แลกเปลี่ยนเป็น Viz Coins ผ่าน ONESIAM SuperApp ช่วยส่งเสริมให้ผู้คนร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการคัดแยกขยะ ด้วยประสบการณ์ในการเปลี่ยนขยะจากสิ่งที่ไม่มีมูลค่าให้มีคุณค่า ให้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเป้าหมายลดปริมาณการฝังกลบของขยะจากการดำเนินงาน 50% ภายในปี 2030”
จากกิจกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อมที่กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ได้ดำเนินการ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 18,825 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1,981,535 ต้น โดยผู้บริหารบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า
“สยามพิวรรธน์มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนความยั่งยืน โดยมีพันธกิจสำคัญคือ การพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทย เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับทุกคนและผู้คนในรุ่นต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สยามพิวรรธน์ โชว์วิสัยทัศน์ ตั้งเป้าเป็น Net Zero Shopping Mall แห่งแรกของไทย
"สยามพารากอน" มอบเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ 5 ล้าน รัฐจ่าย 1.2 ล้าน