ฝุ่นท่วมจีนอีกครั้ง รัฐบาลจีนจะแก้อย่างไร

เจ้าหน้าที่อาวุโสจากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของจีน เปิดเผยว่า จีนกำลังตั้งเป้าที่จะควบคุมการปล่อยมลพิษของประชาชน และขจัดมลพิษทางอากาศร้ายแรงให้สำเร็จ ภายในสิ้นปี 2568 นี้ โดยจะเริ่มจากการปรับปรุงระบบพยากรณ์คุณภาพอากาศและระบบเตือนภัยล่วงหน้า รวมไปถึงการปรับปรุงการประสานงานเพื่อลดการเกิดอนุภาคในอากาศที่เป็นอันตรายอย่าง PM2.5 และมลพิษโอโซน พร้อมย้ำว่า "การต่อสู้เพื่อทวงคืนท้องฟ้าสดใสจะยังคงดำเนินต่อไป"

แม้ว่าจะมีความคืบหน้าอยู่บ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ปัญหามลพิษทางอากาศยังคงเป็นปัญหาสำคัญในประเทศจีน และส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า มลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของประชาชนในจีนมากถึง 2 ล้านรายในแต่ละปี โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว มี 1 ล้านคนที่เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศในพื้นที่สาธารณะ และอีก 1 ล้านคนเป็นผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศภายในครัวเรือน ซึ่งเกิดจากการปรุงอาหารด้วยเชื้อเพลิงและเทคโนโลยีที่ก่อมลพิษ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2024 ประเทศจีนมีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีความเข้มข้นเฉลี่ยของ PM2.5 ในเมืองอยู่ที่ 29.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งลดลง 2.7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีสัดส่วนวันที่คุณภาพอากาศดีอยู่ที่ 87.2 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน

โดยเจ้าหน้าที่คาดหวังว่า จีนจะต้องแนะนำมาตรฐานการปล่อยมลพิษใหม่ที่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับโลก รวมถึงการเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดของยานยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ทางการยังวางแผนที่จะส่งเสริมการขนส่งสินค้าระยะไกลด้วยรถไฟและการขนส่งทางน้ำแทนที่จะเป็นทางถนน

ด้านประธานาธิบดีสีจิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมวิถีชีวิตสีเขียว และการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัย