จีนทุ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินสนับสนุนมหาศาลให้กับพลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว ส่งผลให้ปี 2567 มูลค่าการลงทุนในพลังงานสะอาดทะลุ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
เร็ว ๆ นี้ จีนอาจขึ้นเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด (clean energy) ทดแทนสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาล “โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0” ที่ชัดเจนแล้วว่าจะผลักดันอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน และเชื้อเพลิงฟอสซิลในประเทศ
ถ้าย้อนไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีต่อโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ยกตัวอย่างแบบเลา ๆ ก็เช่น ยกเว้นภาษีนิติบุคคลให้เป็นเวลา 3 ปี ทั้งยังให้ทุนวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด
นี่ยังไม่รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า ที่จีนกลายเป็นเบอร์ 1 ของโลกไปเป็นที่เรียบร้อย มองที่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทยก็จะเห็นชัดเจน 5 อันดับแรก เป็นผู้ผลิตจากจีนแทบทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีเมกะโปรเจกต์เกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ กังหันลม ฯลฯ อีกมากมาย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จึงเป็นที่มาว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา จีนมียอดขาย และการลงทุนกว่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าของพลังงานสะอาดของจีนนั้นแซงยอดขายอสังหาริมทรัพย์ของจีนไปเป็นที่เรียบร้อย
Carbon Brief องค์กรวิจัยจากสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า รถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่คือ 2 ปัจจัยที่ดันตัวเลขมูลค่าในปี 2567 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองอุตสาหกรรมนี้ คิดเป็น 39% ของมูลค่าทั้งหมด
แต่คำถามที่ว่าจีนจะขึ้นเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดอย่างเต็มตัว โดยทิ้งชาติอื่น ๆ แบบไม่เห็นฝุ่นหรือไม่นั้น ผู้เชี่ยวชาญจาก Carbon Brief วิเคราะห์ว่า “พลังงานสะอาดของจีนจะเติบโตต่อไปหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและนโยบายใหม่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2569”
ที่มา: The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง