SHORT CUT
นากทะเลที่สูญพันธุ์จากชายฝั่งโอเรกอนไปนานหลายสิบปี กำลังจะได้รับการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูบ้านของพวกมันให้กลับมาอีกครั้ง
ครั้งหนึ่งชายฝั่งทะเลในรัฐโอริกอนของสหรัฐฯ เคยเป็นแหล่งอาศัยของนากทะเลจำนวนมากที่อยู่ร่วมกับชนเผ่าพื้นเมืองมาเป็นเวลาหลายพันปี โดยชนเผ่าต่างมองพวกมันเหมือนเป็นเครือญาติที่เคารพนับถือ ทั้งยังเป็นเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และเกียรติยศ
ก่อนที่ต่อมานากทะเลจะสูญหายไปอย่างน่าเศร้า จากการถูกล่าในยุคการค้าขนสัตว์ โดยนากทะเลตัวสุดท้ายที่พบในโอเรกอน ได้ถูกยิงในปี 1906 บริเวณชายฝั่งออตเตอร์ร็อค
การหายไปของนากทะเล หมายถึงการหายไปของผู้ล่าที่ทำหน้าที่ควบคุมประชากรของตัวเจ้าปัญหาอย่าง 'หอยเม่น' เพราะเมื่อไม่มีผู้ล่า พวกมันที่ได้กินสาหร่ายจำนวนมากเป็นอาหารก็ขยายพันธุ์จนครอบครองเขตป่าสาหร่ายทะเลจนไม่มีสัตว์น้ำตัวอื่นในบริเวณนั้น กลายเป็นเขตที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่
กลุ่มพันธมิตรชนเผ่าชายฝั่งและกลุ่มอนุรักษ์ จึงต้องเร่งดำเนินการสนับสนุนการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยของนากทะเลขึ้นมา โดยเมื่อปี 1970 มีนากทะเลเกือบ 100 ตัวจากหมู่เกาะอะลูเชียนของอลาสก้าถูกนำปล่อยที่ยังโอเรกอน แต่พวกมันกลับพากันอพยพออกจากพื้นที่โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
ล่าสุดชนเผ่าในท้องถิ่นและองค์กรไม่แสวงหากำไรได้รับเงินช่วยเหลือ 1.56 ล้านดอลลาร์เพื่อวางแผนฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งถือเป็นสายพันธุ์หลักที่สำคัญต่อการฟื้นฟูป่าสาหร่ายใต้น้ำที่กำลังลดน้อยลง และควบคุมประชากรเม่นทะเล
ด้านสำนักงานประมงยืนยันว่า แผนการปล่อยนากทะเลกลับคืนสู่ธรรมชาติครั้งนี้จะประสบความสำเร็จทั้งในโอเรกอนและแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจะส่งผลดีต่อสายพันธุ์นากทะเลและระบบนิเวศทางทะเลใกล้ชายฝั่งหลายประการ เช่น ป่าสาหร่ายทะเลและหญ้าทะเลจะฟื้นตัว มีความหลากหลายทางชีวภาพมากขึ้น และมีความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น