SHORT CUT
พามาดูอีกหนึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาจากเอกชนไทยลุยผลิต “หอฟอกอากาศ” นอกอาคาร สู้สุดใจลดฝุ่น PM.2.5 ได้ 60%
ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดย MQDC ลุยผลิตหอฟอกอากาศภายนอกอาคารสู้ฝุ่น PM.2.5 สามารถลดปริมาณฝุ่นได้ถึง 60
นาทีนี้ปัญหาฝุ่น PM.2.5 แม้กระแสจะดูเงียบๆไป แต่…สถานการณ์ยังรุนแรง และน่าเป็นห่วงว่าจะกระทบสุขภาพคนไทยไปมากกว่านี้ อย่างเช่นวันนี้ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07:00 น.ที่ผ่านมา ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ว่า ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 49.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมี 12 พื้นที่ มีค่าฝุ่น PM2.5 เขตสูงสุดในกรุงเทพมหานคร โดยหนองแขมมีปริมาณฝุ่นละอองสูงที่สุด
จึงทำให้ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดย MQDC ผู้พัฒนาหอฟอกอากาศระดับเมืองขนาดใหญ่ เผยทางศูนย์ฯได้มีการพัฒนาหอฟอกอากาศรุ่นใหม่ “ฟ้าใสมินิ” ซึ่งมีขนาดเล็กลง แต่คงประสิทธิภาพในการดักกรองฝุ่นพิษได้เป็นอย่างดีโดยลดฝุ่นสูงสุดถึง 60% รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ RISC กล่าวว่าด้วยสภาพปัญหามลพิษทางอากาศที่มีอยู่ต่อเนื่อง ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการวิจัยต่างๆ เพื่อให้ได้เทคโนโลยีฟอกอากาศที่สามารถแปลงฝุ่นพิษหรือ PM 2.5 ให้เป็นอากาศที่มีความปลอดภัย จึงเป็นจุดกำเนิดของหอฟอกอากาศฟ้าใส
ทั้งนี้จะมีหลักการทำงานใช้ใบพัดความเร็วสูงดึงอากาศเข้าไปในระบบ ผ่านการแยกฝุ่นและละอองน้ำ ด้วยเทคโนโลยี Jet Venturi Scrubber ที่สามารถลดฝุ่นละอองได้สูงสุด 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ฟ้าใส ได้รับการติดตั้งในพื้นที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ อาคาร ทรูดิจิทัลพาร์ค ช่วยลดค่าฝุ่นได้สูงถึง 50% มหาวิทยาลัยพะเยา ลดได้ 40% ช่วยสร้างเซฟโซนที่มีสภาพอากาศที่ปลอดภัยภายนอกอาคารได้
“ปัจจุบัน ศูนย์วิจัยฯ เดินหน้าพัฒนาเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ๆ โดยพัฒนาจากรุ่น ฟ้าใส 1, ฟ้าใส 2 และ Fresh One เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในเมืองอย่างยั่งยืน” รศ.ดร. สิงห์ กล่าว
ล่าสุด “ฟ้าใส มินิ” ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดที่ RISC ทำการวิจัยในปัจจุบัน ติดตั้งที่ DTGO CampUs ถนน บางนา-ตราด กม. 7 เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท MQDC ซึ่งเป็นโมเดลที่มีขนาดเล็กลงช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดด้านการเข้าถึงและติดตั้งในพื้นที่ แต่คงประสิทธิภาพสูงโดยยังสามารถลดฝุ่นพิษลงได้ถึง 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่รัศมีรอบตัวหอฟอกอากาศประมาณ 20 – 50 เมตร ความสูงประมาณ 5 เมตร (พื้นที่ประมาณ 12,000 ตรม.) เทียบเท่าขนาดหนึ่งสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ และได้มีการวัดประสิทธิภาพการฟอกอากาศในเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่า ฟ้าใส มินิ สามารถลดค่าฝุ่นได้ถึง 60%
ปัจจุบัน บริษัท ดี ซูพรีม จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิบัตรฟ้าใสเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดสู่การใช้งานในเชิงพาณิชย์ เน้นการพัฒนาให้มีความพร้อมสำหรับการจำหน่าย และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจากศูนย์วิจัยฯ RISC ดังนั้น จึงเริ่มมีองค์กรต่างๆ ติดต่อเพื่อนำไปใช้งานโดยเฉพาะในช่วงเข้าสู่วิกฤติฝุ่นพิษ อาทิ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งช่าติ ได้สั่งซื้อ “ฟ้าใส มินิ” และเตรียมติดตั้งในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหอฟอกอากาศ “ฟ้าใส” สามารถติดตามข้อมูลได้จาก ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) www.risc.in.th และหากสนใจสั่งซื้อสามารถติดต่อได้ที่ บริษัท ดี ซูพรีม จำกัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ค่าฝุ่น PM2.5 กทม. วันนี้ ติดอันดับ 5 ของโลก เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ ระดับสีส้ม
รู้จัก! “กาวซีเมนต์ลดฝุ่น” ลดการฟุ้งกระจายฝุ่น 80% รายเดียวในไทย
ไทยศึกษาต้นแบบจัดการฝุ่น PM 2.5-ฝุ่นควันข้ามแดน อย่างยั่งยืนที่สิงคโปร์