svasdssvasds

ไทยศึกษาต้นแบบจัดการฝุ่น PM 2.5-ฝุ่นควันข้ามแดน อย่างยั่งยืนที่สิงคโปร์

ไทยศึกษาต้นแบบจัดการฝุ่น PM 2.5-ฝุ่นควันข้ามแดน อย่างยั่งยืนที่สิงคโปร์

“เอกนัฏ”ลุยสิงคโปร์! ศึกษาต้นแบบจัดการฝุ่นPM 2.5 – ฝุ่นควันข้ามแดน แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน หวังดึงดูดลงทุนเพิ่ม ย้ำไทยแก้ไขปัญหา PM 2.5 และฝุ่นควันข้ามแดนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ

SHORT CUT

  • ปัญหาฝุ่น PM 2.5-ฝุ่นควันข้ามแดน ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน หลายหน่วยงานกำลังเร่งศึกษาโมเดลต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้
  • ล่าสุด“เอกนัฏ”ลุยสิงคโปร์! ศึกษาต้นแบบจัดการฝุ่นPM 2.5 – ฝุ่นควันข้ามแดน แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน หวังดึงดูดลงทุนเพิ่ม
  • พร้อมย้ำไทยแก้ไขปัญหา PM 2.5 และฝุ่นควันข้ามแดนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ

“เอกนัฏ”ลุยสิงคโปร์! ศึกษาต้นแบบจัดการฝุ่นPM 2.5 – ฝุ่นควันข้ามแดน แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน หวังดึงดูดลงทุนเพิ่ม ย้ำไทยแก้ไขปัญหา PM 2.5 และฝุ่นควันข้ามแดนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ

ปัญหาฝุ่น PM 2.5-ฝุ่นควันข้ามแดน ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน ล่าสุด นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2568 ตนเองพร้อมด้วย นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ กนอ. ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ เพื่อศึกษาและหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา PM 2.5 รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการจัดการฝุ่นควันข้ามแดน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสิงคโปร์ และเข้าร่วมประชุมหารือกับนายโคห์ โพห์ คูน (Koh Poh Koon) รัฐมนตรีอาวุโสแห่งรัฐของกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมสิงคโปร์ ด้วย

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และฝุ่นควันข้ามแดน ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภูมิภาคอาเซียนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และเศรษฐกิจ  สิงคโปร์ ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยฝุ่นควันข้ามแดนเพื่อป้องกันและลดมลพิษจากไฟป่าและไฟบนพื้นดิน โดยมีความร่วมมือในการติดตามตรวจสอบ แลกเปลี่ยนข้อมูล และเทคโนโลยีระหว่างกัน ซึ่งการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน

ไทยศึกษาต้นแบบจัดการฝุ่น PM 2.5-ฝุ่นควันข้ามแดน อย่างยั่งยืนที่สิงคโปร์

ทั้งนี้ทุกฝ่ายต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการปัญหา PM 2.5 การกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน เพื่อให้ชุมชนและภาคอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหา PM 2.5 และปัญหาฝุ่นควัน ไม่เพียงช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หากประเทศไทยสามารถจัดการปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศ และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้มากขึ้น

“เราต้องการให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการลงทุนที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหา PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ จึงเป็นวาระสำคัญที่เราต้องเร่งดำเนินการแก้ไข” นายเอกนัฏ กล่าว

ด้านนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. กล่าวเสริมว่า กนอ.สามารถนำแนวทางเหล่านี้มาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในนิคมอุตสาหกรรมได้ โดยการกำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดสำหรับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับโรงงานที่ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน ส่งเสริมให้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหา PM 2.5 อย่างจริงจัง

“กนอ.ชื่นชมและเห็นด้วยกับหลักการของสิงคโปร์ ในการจัดการปัญหาฝุ่นควัน และพร้อมนำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่ง กนอ.มุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามมาตรฐานและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา PM2.5 โดยเราต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” นายสุเมธ กล่าว

ไทยศึกษาต้นแบบจัดการฝุ่น PM 2.5-ฝุ่นควันข้ามแดน อย่างยั่งยืนที่สิงคโปร์

สำหรับการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2568 คณะได้มีการประชุมหารือกับกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม สิงคโปร์ (Ministry of Sustainability and the Environment) ณ สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (The National Environment Agency : NEA, Singapore ) โดยมีนางอุรีรัชต์ เจริญโต เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐสิงคโปร์ เข้าร่วมในการประชุมหารือในครั้งนี้ด้วย โดยการเยือนสิงคโปร์ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา PM 2.5 และฝุ่นควันข้ามแดนอย่างยั่งยืนในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

related