หมอเตือนฝุ่น PM 2.5 มีผลสมรรถภาพปอด มีโอกาสเสียชีวิตของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคปอดเพิ่มขึ้น สถาบันโรคทรวงอก เก็บข้อมูลคนไข้ช่วง PM 2.5 มากกว่า 25 มคก./ลบ.ม. พบ 1 ใน 5 อาการกำเริบจากเดิม
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ กรณีฝุ่น PM 2.5 พญ.เปี่ยมลาภ แสงสายัณห์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรศาสตร์ปอด สถาบันโรคทรวงอก กล่าวถึงผลกระทบต่อปอดจากฝุ่น PM 2.5 ว่า ทำไมฝุ่น PM 2.5 ถึงลงลึกไปในปอดได้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่จะลงลึกเข้าไปในปอดได้ควรต้องมีขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน เพราะขนาดใหญ่จะไปติดบนทางเดินหายใจส่วนบนก่อน อย่าง PM 10 จะเกาะอยู่ตรงโพรงทางเดินหายใจส่วนต้น แต่ขนาดเล็กลงถึง 2.5 ไมครอนจะลงที่หลอดลมส่วนปลายและไปถึงเนื้อปอดได้ หากเทียบกับเส้นผมแบ่ง 5 ส่วนจะได้เท่ากับ PM 10 และใน PM 10 ก็แบ่งออกไป 4 ส่วนเป็น PM 2.5 ถือว่าฝอยมากจึงลงไปถึงเนื้อปอด
ฝุ่น PM 2.5 จะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของหลอดลมและเนื้อปอด ร่างกายจะมีการซ่อมแซมอาจเกิดโรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง หรือเกิดการสร้างเนื้อเยื่อพังผืดขึ้นมา หรือไปกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ เกิดการปรับตัวของเซลล์เราทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ โดยอาการที่เกิดจาก PM 2.5 ได้แก่ ไอจาม มีน้ำมูกเพิ่มขึ้น หรือทำให้โรคพื้นฐาน เช่น โรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคหอบหืดกำเริบขึ้นได้ จากเดิมที่ไออยู่แล้วก็ไอมากขึ้น เสลดเปลี่ยนสี เป็นต้น
จากโมเดลของการคำนวณจากงานวิจัยโดยตั้งต้นในพื้นที่มี PM 2.5 สูงมากๆ เกิน 100 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป ระยะเวลาได้รับค่อนข้างยาวเกินครึ่งวันขึ้นไป เคยสูงถึง 600-700 มคก./ลบ.ม.ในบางเมือง จะพบข้อมูลว่า การรับ PM 2.5 มีการเพิ่มทุก 10 มคก./ลบ.ม. จะทำให้สมรรถภาพปอดลดลง การเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น 0.38% ต่อการเจ็บป่วย หรือมีโอกาสเสียชีวิตของโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น 8% ผู้ป่วยโรคปอดเพิ่ม 6% และโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 4%
ส่วนคำถามว่า การเกิดโรคมีผลจากการเพิ่มเติมของ PM 2.5 หรือไม่ จากการคำนวณโมเดลพบว่า เมื่อระดับ PM 2.5 ได้รับเกิน 20 มคก./ลบ.ม. มีโอกาสเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเป็น 2 เท่า แต่เป็นโมเดลที่บอกไม่ได้ว่าได้รับระยะเวลานานแค่ไหน หรือระยะเวลารับต่อวันเป็นอย่างไร รับมากี่ปี เพราะเป็นโมเดลเชิงสถิติ เช่นเดียวกันก็พบว่าทำให้สมรรถภาพปอดลดลง การกำเริบในหอบหืดเพิ่มขึ้น เมื่อได้รับฝุ่นเพิ่มมากขึ้น
ถ้า PM 2.5 เกิน 50 มคก./ลบ.ม.ต้องกังวลหรือไม่ จากข้อมูลสถาบันโรคทรวงอก ที่เก็บในช่วงที่มี PM 2.5 มากกว่า 25 มคก./ลบ.ม. ในคลินิกของคนไข้โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืดที่มีปัญหาทางเดินหายใจเป็นหลักอยู่แล้ว ศึกษาระหว่างเดือนธันวาคม 2566- มกราคม 2567 และวันที่ 10-21 มกราคม 2568 จำนวน 487 คน คนไข้อายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป (80% มีอายุมากกว่า 60 ปี) พบ 1 ใน 5 มีอาการกำเริบจากเดิม คือ ตั้งแต่น้อยๆ ไอจาม จนอาการมากขึ้นจนต้องพ่นยา ทั้งนี้ เพราะอะไรข้อมูลถึงไม่เป็น 100% เพราะเราได้ให้ข้อมูลคำแนะนำอยู่แล้วในการดูแลตนเองของคนไข้ เช่น ค่าฝุ่นสูงต้องปกป้อง ไม่ออกนอกพื้นที่ อยู่ในห้องปิด หรือใส่หน้ากากเวลาออกไปข้างนอก
อันตรายของ PM 2.5 ไม่ได้เกิดเฉพาะวันที่เป็นปัญหา หรือได้รับ PM 2.5 แต่จะมีการกระตุ้นการอักเสบ ดังนั้น อาการอาจไปเกิดหลังได้รับกระตุ้นไปแล้ว 7 วัน ต้องเน้นย้ำประชาชนว่า เมื่อรับแล้วอาการไม่ได้เกินวันนี้ แต่เกิดหลังจากนี้ 2-3 วันได้
แนวทางป้องกันโดยเฉพาะกลุ่มคนไข้โรคปอด เราคิดที่ 25 มคก./ลบ.ม. เมื่อเกินจากนี้ขึ้นไปให้ลดกิจกรรมและเลี่ยงการออกนอกบ้านจะดีที่สุด ร่วมกับการสวมแมสก์ ซึ่ง N95 ดีที่สุด แต่บางครั้งไม่สามารถเข้าถึงได้ การใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ใส่ 2 ชั่นประกบ ก็สามารถช่วยกรองได้มากขึ้น เหมือนมีตะแกรงสองชั้นช่วยกรอง การปลูกต้นไม้ การลดมลพิษก็เป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติ