SHORT CUT
พามาส่องดูอีกหนึ่งความพยายาม กับพันธกิจยุทธศาสตร์ฟ้าใส 3 ประเทศ แก้ฝุ่น PM 2.5 ไฟป่า ข้ามแดน ไทย-ลาว -เมียนมา จะทำได้มั้ย? แล้วมีแผนงานอย่างไรบ้าง
ปัญหาไฟป่า และฝุ่น PM 2.5 ของประเทศไทยถือว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกจริงๆ กี่ปีมาแล้ว ที่คน สัตว์ สิ่งแวดล้อมต้องสูญเสียไปกับมหันตภัยร้ายทำลายล้างนี้ แม้ว่าจะมีความพยายามจากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกวิถีทางอยู่ในตอนนี้ แต่…ก็ได้แค่พยายาม เพราะ…ปลายปีแบบนี้ ฝุ่น PM 2.5 และไฟป่า มาตามนัดเช่นเคยอีกแล้ว อย่างเช่นวันนี้ ( 14 พ.ย.67) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร และ GISTDA รายงานว่า38 เขตทั่วกรุง ฝุ่น PM 2.5 ฟุ้งกระจาย หนองแขม ธนบุรี นำโด่ง เสี่ยงกระทบสุขภาพ ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 36.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
ทั้งนี้ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เวลา 07:00 น. ที่ผ่านมาค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 36.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
โดย 5 อันดับ ของค่าฝุ่น PM2.5 เขตสูงสุดในกรุงเทพมหานคร
1. เขตหนองแขม 51.1 มคก./ลบ.ม.
2 .เขตธนบุรี 45.8 มคก./ลบ.ม.
3. เขตบางขุนเทียน 44.6 มคก./ลบ.ม.
4. เขตบางรัก 43.6 มคก./ลบ.ม.
5. เขตบางบอน 43.6 มคก./ลบ.ม.
ขณะที่ GISTDA ได้เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” (เวลา 07:00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567) พบว่า 38 เขตของกรุงเทพมหานคร เกินค่ามาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) สูงสุดอยู่ที่เขตดอนเมือง 95.3 ไมโครกรัม ขณะที่ภาพรวมประเทศพบ 3 จังหวัดระดับสีแดง ได้แก่สมุทรสาคร นนทบุรี และ กทม. ทั้งนี้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
แน่นอนว่า PM 2.5 คือสิ่งที่ไม่มีใครให้เกิดขึ้น เพราะมันทำลายทั้งชีวิตผู้คน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ทั้งระบบ โดยที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ออกมาประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานที่เกิดขึ้น มิติของค่าเสียโอกาส ด้านสุขภาพ การท่องเที่ยว ค่าเสียโอกาสของภาคธุรกิจอื่นๆ ผลทางเศรษฐกิจจากปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพฯและปริมณฑล แค่ช่วงระยะเวลาสั้นแค่ 1 เดือนสูญเงินกว่า 3,200-6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ยังมีคาดการณ์อีกว่าวิกฤตมลพิษทางอากาศ จากฝุ่น PM 2.5 หากปล่อยให้ยืดเยื้อทุกปี จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ อาจสร้างความเสียหายมากถึง 5,500-10,000 ล้านบาท จากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นได้ว่าสถานการไฟป่า ฝุ่น PM 2.5 อาการน่าเป็นห่วงจึงทำให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อยู่ อย่างเช่นล่าสุด ไทย - สปป.ลาว - เมียนมา ได้มีการเปิดตัวแผนปฏิบัติการร่วมฯ ภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส ผนึกกำลังป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นรูปธรรม
โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า เพื่อย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นรูปธรรมและบูรณาการร่วมกัน ซึ่งประเทศไทย โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ฝุ่นละออง รวมถึงหมอกควันข้ามแดน มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคประชาสังคมมาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง สำหรับปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นของประเทศไทย สปป.ลาว และเมียนมา
ทั้ง 3 ประเทศได้มีการดำเนินงานร่วมกันต่อเนื่องมากว่า 10 ปี มีการริเริ่มยุทธศาสตร์ฟ้าใส และร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน พ.ศ. 2567 - 2573 และเพื่อยกระดับความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคผ่านการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการร่วมฯ พร้อมทั้งเป็นการสร้างความรับรู้ ความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนในวงกว้างถึงผลกระทบของมลพิษทางอากาศข้ามแดน เพื่อขับเคลื่อนให้ภูมิภาคของเราเป็นภูมิภาคปลอดหมอกควันอย่างแท้จริงเพื่อประชาชนของเราทุกคน
ต้องจับดูกันต่อไปว่า ยุทธศาสตร์ฟ้าใส 3 ประเทศ แก้ฝุ่น PM 2.5 ไฟป่า ข้ามแดน ไทย-ลาว -เมียนมา จะทำได้มั้ย?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง