รวมเรื่องแปลก ที่ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่า "ปลาหมอคางดำ" เป็นอมตะ

กลายเป็นเอเลียนสปีชีส์ที่สร้างความหวาดกลัวต่อเกษตรกรจำนวนมาก เมื่อยิ่งค้นพบข้อมูลว่า "ปลาหมอคางดำ" นอกจากจะขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วจนมีจำนวนหลายร้อยตัวได้ภายในเวลาไม่กี่วัน พวกมันยังมีความสามารถในการปรับตัวระดับที่น่าทึ่ง อยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และยากต่อการกำจัด

หนึ่งในนั้นคือกรณีที่เกิดขึ้นที่บ่อเลี้ยงปลากะพงในจังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อเกษตรกรรายหนึ่งเล่าว่า ตนเคยพยายามสูบน้ำออกจากบ่อจนหมด แล้วปล่อยทิ้งให้ตากแดดนานกว่า 2 เดือน จนดินโคลนแห้ง หวังจะกำจัดปลาหมอคางดำให้หมด แต่สุดท้ายเมื่อมีฝนตกลงมาก็พบว่ามีลูกปลาหมอคางดำกลับมาอยู่ในบ่อตามเดิม จึงคาดว่าปลาหมอคางดำชุดก่อนหน้าอาจจะคายไข่ทิ้งเอาไว้ และไข่ปลาพวกนั้นยังทนแดดได้ในระยะเวลานาน พอมีน้ำกลับมามันก็ฟักเป็นตัวได้อีก

ส่วนเกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา ก็มีความเชื่อว่า นกกินปลาคือตัวการสำคัญที่ทำให้ปลาหมอคางดำแพร่กระจายในพื้นที่ เช่นนกบางตัวอาจกินปลาเข้าไปในปาก แล้วบินข้ามไปยังแหล่งน้ำบริเวณอื่น เกิดสำรอกหรือทำปลาร่วง ทำให้ปลาที่มีไข่ในปากสามารถไปขยายพันธุ์ต่อได้ หรือยิ่งกว่านั้นคือกรณีที่นกอาจกินปลาที่มีไข่เข้าไป เมื่อย่อยแล้วไปถ่ายมูลลงสู่แหล่งน้ำ ไข่ปลาที่ยังไม่ตายก็กลับมาเจริญเติบโตต่อไปได้

ขณะที่เกษตรกรอีกคนค้นพบว่าปลาหมอคางดำสามารถดำรงชีวิตรอดได้ในน้ำร้อน หมายถึงน้ำที่อุณหภูมิสูงเพราะรับความร้อนจากแสงแดดและพื้นดินจนปลาและสัตว์น้ำชนิดอื่นน็อกตายหมดยกบ่อ แต่ปลาหมอคางดำยังคงอยู่รอดได้อย่างสบาย

นอกจากนี้หลายคนยังกังวลต่อข้อมูลที่ระบุว่าพวกมันสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล จนยากจะจินตนาการว่าหากปล่อยเอาไว้ พวกมันจะมีจำนวนมากมายขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางกรมประมงได้ออกมาแถลงการณ์ ยืนยันว่า ตามหลักวิชาการเมื่อนำปลาหมอคางดำขึ้นจากน้ำ หลังจากพ่อปลาตาย ไข่ปลาในปากจะมีชีตรอดได้อีกไม่เกิน 15 นาที หรืออยู่ในแหล่งน้ำที่ไม่มีอ็อกซิเจนได้นาน 1 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นไข่ปลาหมอคางดำไม่สามารถทนทานต่อแดดนานเป็นเดือนแล้วยังฟักเป็นตัวได้แน่นอน ขณะที่กรณีอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ยังไม่สามารถตรวจสอบเพื่อยืนยันความจริงได้อย่างแน่ชัด