หนึ่งในการค้นพบด้านบรรพชีวินครั้งสำคัญของไทย นักวิจัยจากศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวิทยา ม.มหาสารคาม พบฟอสซิลไข่พยาธิ หนึ่งในซากดึกดำบรรพ์ที่หายากระดับ “แรร์ไอเทม”
ใครจะไปคิดว่าไข่พยาธิจะเป็นฟอสซิลได้ แถมยังพบในไทยโดยนักวิจัยไทยอีกต่างหาก เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง CNN รายงานการค้นพบฟอสซิลไข่พยาธิ อายุมากกว่า 200 ล้านปี จากมูลของสัตว์เลื้อยคลานคล้ายจระเข้ในประเทศไทย จากงานวิจัยล่าสุดที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร PLOS ONE โดย ดร.ธนิศ นนท์ศรีราช จากศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวิทยา ม.มหาสารคาม และคณะ (2023)
แม้ในปัจจุบันเราสามารถพบพยาธิได้ทั่วไปในหลายระบบนิเวศ อย่างไรก็ตามการศึกษาบรรพบุรุษของพยาธินั้นเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากพยาธิเป็นหนึ่งในซากดึกดำบรรพ์ที่หายากระดับ “แรร์ไอเทม” เพราะโครงร่างอ่อนหรือเนื้อเยื่อส่วนใหญ่มักจะไม่ถูกแปรสภาพเป็นซากดึกดำบรรพ์
ด้วยเหตุนี้ทีมวิจัยจึงได้นำมูลสัตว์โบราณยุคไทรแอสซิกตอนปลาย (Late Triassic) ในหมวดหินห้วยหินลาด ที่พบใน จ.ชัยภูมิ มาศึกษาด้วยการนำไปตัดและติดกระจกสไลด์จากนั้นศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ จึงได้พบกับฟอสซิลขนาดจิ๋ว ลักษณะทรงกลมรี ขนาดประมาณ 50-140 ไมโครเมตร ซึ่งสามารถระบุได้ว่าเป็นไข่ของพยาธิหนอนตัวกลม (nematode) จากลักษณะของเปลือกที่หนาและมีเอ็มบริโอภายใน
ในขณะที่โครงสร้างอื่น ๆ ที่พบในมูลสัตว์โบราณชิ้นนี้มีลักษณะไม่ชัดเจน ซึ่งอาจเป็นโปรตัวซัว (protozoa) หรือไข่พยาธิกลุ่มใหม่ที่ยังไม่มีการค้นพบมาก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบสัตว์โบราณหนักที่สุดในประวัติการณ์ ฟอสซิลวาฬอายุ 39 ล้านปี อาจหนัก 300 ตัน
รู้จัก ไดโนเสาร์ตัวที่ 13 ของไทย "มินิโมเคอร์เซอร์ ภูน้อยเอนซิส"
ทีมนักวิจัยยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มูลสัตว์โบราณ หรืออึดึกดำบรรพ์ (coprolite) คือเศษกากของสิ่งมีชีวิตที่เป็นเหยื่อที่ไม่สามารถย่อยได้ ถูกขับออกมา ผ่านกระบวนการทับถมและแปรสภาพเป็นซากดึกดำบรรพ์
สำหรับมูลสัตว์โบราณที่นำมาศึกษาเป็นทรงกระบอกเรียวโค้งเล็กน้อยผิวเรียบ มีสีดำเนื้อละเอียดและไม่พบเศษกระดูกของเหยื่อภายใน เมื่อเปรียบเทียบพบว่าเป็นลักษณะมูลของสัตว์เลื้อยคลานยุคไทรแอสซิกตอนปลายที่มีสายวิวัฒนาการร่วมกับจระเข้ (crocodile-like animals)
การศึกษาครั้งนี้นับเป็นการค้นพบไข่พยาธิดึกดำบรรพ์ในมูลของสัตว์มีกระดูกสันหลังครั้งแรกในทวีปเอเชีย ซึ่งมีส่วนที่สำคัญในการสร้างความเข้าใจเรื่องความหลากหลายและความสัมพันธ์แบบปรสิต (Parasitism) ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศยุคโบราณ โดยไข่พยาธิที่มีลักษณะสัณฐานแตกต่างกันในมูลสัตว์โบราณเพียงหนึ่งชิ้น อาจเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่เป็นเหยื่อเป็นพาหะโดยมีพยาธิอยู่ในร่างกายแล้วก่อนถูกล่าในเวลาต่อมา