ข่าวดี ! ครม.รับทราบอุทยานธรณีโคราชได้รับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลก หนุนไทยเป็นที่รู้จักระดับนานาชาติด้านแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ดึงดูดนักท่องเที่ยวนำรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน
แหล่งท่องเที่ยวไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ล่าสุดน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ก.ค. 66 ได้รับทราบกรณีที่อุทยานธรณีโคราชได้รับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) ซึ่งการได้เป็นสมาชิกอุทยานธรณียูเนสโกครั้งนี้จะทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติเพิ่มมากขึ้นทั้งด้านคุณค่าของแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและด้านการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวนำรายได้สู่ชุมชน ท้องถิ่นและประเทศ ประชาชนในพื้นที่มีงานทำ เกิดรายได้และความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนให้ประชากรในพื้นที่เกิดจิตสำนึก ในการอนุรักษ์ หวงแหน ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างยั่งยืน และยังเป็นแหล่งศึกษา วิจัย ของนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แอลเบเนียตั้ง แม่น้ำวีโยซา แม่น้ำที่ไม่มีเขื่อนใดๆขวาง เป็นอุทยานแห่งชาติ
89 อุทยานฯ-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ประกาศปิด คุมพื้นที่ไฟป่า สัตว์หนีตาย
ว้าว! พบ วาฬบรูด้า สัตว์ทะเลหายาก 3 ตัว ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
ทั้งนี้คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการเสอนอุทยานธรณีโคราชเป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกต่อสำนักเลขาธิการยูเนสโก เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 62 (ตามความเห็นชอบของ ครม. เมื่อ 19 พ.ย. 62) ต่อมายูเนสโกได้ประเมินคุณค่าทางวิชาการด้านธรณีวิทยาของอุทยานธรณีโคราช พบว่ามีความสำคัญโดดเด่นระดับโลก และได้ส่งผู้ประเมินภาคสนามมาตรวจประเมินระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย. 65 เพื่อนำเสนอรายงานแก่สภาอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก และได้รับการรับรองจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก ในการประชุมเมื่อวันที่ 10-24 พ.ค. 66 ณ องค์การยูเนสโกสำนักงานใหญ่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
สำหรับหลักเกณฑ์การเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกนั้น มีหลายข้อด้วยกัน อาทิ ต้องเป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นหนึ่งเดียว หรือเป็นสถานที่ซึ่งอาจมีเพียงที่เดียว และมีลักษณะทางภูมิทัศน์ที่มีความสำคัญทางธรณีวิทยาโลก มีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบริหารจัดการมากขึ้น และเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายอุทยานธรณีโลก(Global Geopark Network :GGN) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล แบ่งปันประสบการณ์ ดำเนินโครงการหรือกิจการรมร่วมกันในเครือข่าย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หลังจากมีสถานะเป็นอุทยานธรณีโลกแล้ว ภายใน 4 ปี จะต้องได้รับการประเมินอีกครั้งเพื่อรักษาคุณสมบัติและคุณภาพของอุทยาน โดยหากผ่านเกณฑ์ก็จะได้รับการต่ออายุคราวละ 4 ปี แต่หาไม่ผ่านหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการบริหารอุทยานธรณีโลกต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามขั้นตอนและข้อเสนอแนะของยูเนสโกให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี หากไม่ดำเนินการก็จะถูกถอนออกจากการเป็นอุทยานธรณีโลกต่อไป
ทั้งนี้หลังจากได้รับการรับรองครั้งนี้แล้ว จะทำให้ประเทศไทยมีอุทยานธรณีโลก จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ อุทยานธรณีโลกสตูล ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 61 และอุทยานธรณีโลกโคราช และมีอุทยานธรณีประเทศไทย 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก(จ.อุบลราชธานี) อุทยาธรณีเพชรบูรณ์ และอุทยานธรณีขอนแก่น ซึ่งปัจจุบันอุทยานธรณีขอนแก่นอยู่ระหว่างขอรับรองเป็นอุทยานธรณีโลก
สำหรับข้อมูลทั่วไปของอุทยานธรณีโคราช มีพื้นที่ครอบคลุม 5 อำเภอ คือ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ มีแหล่งธรณีวิทยา แหล่งธรรมชาติ และแหล่งวัฒนธรรมในพื้นที่จำนวน 35 แหล่ง ในจำนวนนี้เป็นแหล่งธรณีวิทยาที่มีคุณค่าระดับนานาชาติ 4 แหล่ง ได้แก่ แหล่งอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินฯ แหล่งไดโนเสาร์อิกัวโนดอนพันธุ์ใหม่ของโลก แหล่งฟอสซิลช้างดึกดำพรรพ์ และ แหล่งฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นอกจากนี้ ยังมีภูมิประเทศเชาเควสตาแบบคู่ (เควสตาโคราช) ซึ่งเป็นภูเขามีลักษณะคล้ายมีดอีโต้ ที่นับว่ายาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตลอดจนมีโบราณสถาน วัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชนและความหลากหลายทางชีวภาพที่สอดคล้องกับแนวทางการเป็นอุทยานโลกของยูเนสโก