พลายศักดิ์สุรินทร์ สัตว์นักการทูตที่ถูกใช้งานจนเกือบพิการ กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องของการดูแลช้างเป็นอย่างไร แล้วทำไมแพนด้าของจีนถึงได้รับการดูแลดีกว่า
การส่งออกสัตว์เพื่อเป็นตัวแทนทางการทูต ยังคงเป็นสิ่งที่ทำกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคสุโขทัย อยุธยาหรืออาจมีก่อนหน้านั้น ที่รู้จักกันว่า “เครื่องราชบรรณาการ” ควบคู่ไปกับสิ่งของ เงินทองหรือพืชผลที่เป็นของดีของภูมิภาคนั้น ๆ
พลายศักดิ์สุรินทร์เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของสัตว์ประจำชาติไทยที่ถูกส่งไปเป็นตัวแทนการผูกไมตรีระหว่างไทยกับศรีลังกา แต่ก็เกิดดราม่าถูกดูแลไม่เหมาะสม จึงมีการร้องเรียนเกิดขึ้นให้นำกลับไปรักษาที่ไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิด
เรื่องนี้ทำให้หลายคนสงสัย ทำไม สัตว์ที่เราอุตส่าห์ส่งไปเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในฐานะนักการทูตถึงได้รับการดูแลแบบนี้ ซึ่งหากเทียบกับการส่งแพนด้าไปต่างประเทศของจีน ที่ดูเหมือนมีการดูแลหรือกฎเกณฑ์ที่ดีกว่า ทำไมช้างไทยจึงไม่ได้รับแบบนั้นบ้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผลตรวจสุขภาพเบื้องต้นพลายศักดิ์สุรินทร์ หลังกลับไทย พบตาขวาเป็นต้อกระจก
เตือน! อย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพ หลอกขอรับบริจาค เพื่อรักษา พลายศักดิ์สุรินทร์
เปิดข้อมูล "ช้างไทย ทูตสันถวไมตรี" ส่งไปออสเตรเลียมากสุด รองลงมาศรีลังกา
Springnews จะเทียบให้เห็นชัด ๆ ถึงมาตรการการดูแลสัตว์นักการทูตระหว่างแพนด้าของจีนและช้างของไทย ว่ามีการดูแลอย่างไรในต่างแดน
จากข้อมูลดังกล่าว ประเทศจีนจะมีกฎระเบียบที่รัดกุมกว่า จะเห็นได้จากตัวอย่างของแพนด้าหยาหยาที่เพิ่งถูกส่งกลับจีน เมื่อเดือนเมษายน 2023 ที่ผ่านมา จากกรณีดราม่านักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่สวนสัตว์เมมฟิซ ของสหรัฐอเมริกาแล้วพบว่าหยาหยามีสภาพร่างกายย่ำแย่ จึงเรียกร้องให้ส่งกลับจีนพร้อมถูกปรับด้วย อ่านเรื่องของหยาหยาต่อได้ที่ >>> แพนด้า "หยาหยา" กลับถึงจีนแล้ว หลังดราม่า ถูกเลี้ยงดูไม่ดีในสวนสัตว์สหรัฐฯ
ส่วนของประเทศไทย อ้างอิงจากระเบียบกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการอนุญาตให้ส่งออกช้างออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2562 โดยระบุว่า การส่งออกสัตว์ออกนอกประเทศมีอยู 3 กรณีหลัก คือ 1) ส่งออกไปเพื่อวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทย 2) เชื่อมความสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ 3) ส่งส่วนต่าง ๆ ของช้างหรือผลิตภัณฑ์ทำจากช้างออกนอกประเทศ
ทำความรู้จัก "ฮานาโกะ" ช้างไทยทูตสันถวไมตรี "ช้างที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก"
สรุปให้ พลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยในศรีลังกา ถูกใช้งานหนักเกือบพิการ
ซึ่งในส่วนของ การส่งช้างออกนอกราชอาณาจักรเพื่อสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศนั้นมีข้อกำหนดเพียงแค่ว่า ตลอดระยะเวลาที่ช้างอยู่นอกราชอาณาจักรต้องมีควาญช้างหรือผู้บังคับช้างอย่างน้อย 2 คนต่อช้าง 1 เชือก โดยปีแรกควาญช้างหรือผู้บังคับช้างจะต้องเป็นสัญชาติไทย และต้องมีการทำเอกสารยื่นขออนุญาตพร้อมหลักฐาน
และจากการโทรสอบถามสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชถึงมาตรการการดูแลช้างไทยในต่างแดน ทางกรมฯได้อธิบายว่า สัตว์ที่ส่งออกไปแล้ว คือ ส่งออกไปเลย ไม่มีกำหนดการส่งคืน หากไม่ใช่เพื่อการศึกษาวิจัย การดูแลช้างก็เลยต้องขึ้นกับประเทศปลายทางว่าประเทศนั้นมีมาตรการการดูแลช้างอย่างไร เป็นต้น
ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่อนุญาตให้ส่งออกช้างออกนอกราชอาณาจักรมาตั้งแต่ปี 2552 แล้ว เพื่อป้องกันการนำช้างป่ามาสวมเป็นช้างบ้านเพื่อส่งออกต่างประเทศ แต่จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเผยว่า ปี 2544-2559 ไทยยังมีการส่งออกช้างไปเป็นทูตสันถวไมตรีกันอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า ในปัจจุบันไทยไม่มีนโยบายส่งออกช้างแล้ว แต่หากประเทศไหนต้องการแลกเปลี่ยน ก็ต้องมาพิจารณากันอีกทีหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปยาว ๆ เลย รวมถึง พลายศักดิ์สุรินทร์จะต้องถูกส่งกลับศรีลังกาหรือไม่หากหายดี 100%
ที่มาข้อมูล
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม