ก้าวไกลชูผลสำเร็จ 'รถเมล์อนาคต' ผ่านสภาแล้ว รถเมล์ไฟฟ้าวิ่งทั่วกทม.ใน 7 ปี

จุดเริ่มต้นที่มีหวัง! เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 พรรคก้าวไกลได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล – Move Forward Party ว่าร่างกฎหมายรถเมล์อนาคต ที่มุ่งหวังจะเปลี่ยนรถเมล์ควันดำในกทม. เป็นรถเมล์ไฟฟ้า เพื่อลดฝุ่น ลดโลกร้อน ลดเมล์มีคุณภาพให้กับพี่น้องประชาชน ได้ผ่านสภา กทม. วาระ 1 แล้ว ด้วยคะแนนเสียง 33-3

ผู้ผลักดันร่างกฎหมายนี้ในพรรคก้าวไกลคือ ส.ก.พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล ที่พยายามผลักดันข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต เปิดเผยว่า เนื้อหาสำคัญของกฎหมาย ‘รถเมล์อนาคต’ คือการเปลี่ยนรถเมล์สันดาป เป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) ภายใน 7 ปี

คุณพุทธิพัชร์ได้อธิบายว่า ข้อบัญยัตินี้ไม่ได้บังคับผู้ประกอบการเดินรถโดยตรง แต่เป็นการบอกว่า ต้องเฉพาะรถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่สามารถเดินทางได้ภายในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภากทม. จะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 1 ปี ถ้าพ้นไปแล้ว 1 ปี รถเมล์ที่ยังมีสัมปทานเดินรถอยู่ ก็จะต้องเป็นรถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่จะสามารถวิ่งได้ในเขตพื้นที่กทม.

ส่วนรถเมล์สัมปทานเดิมและเป็นรถเมล์สันดาปก็จะทยอยหมดอายุสัมปทาน ซึ่งอายุสัมปทานนานที่สุดที่มีการต่อคือ 7 ปี หมายความว่าภายใน 7 ปี รถเมล์ทั้งหมดที่วิ่งในพื้นที่กทม. จะเป็นรถเมล์ EV ทั้งสิ้น และนี่ก็ไม่ได้เป็นกลไกในการจำกัดสิทธิเสรีภาพของเอกชนแต่อย่างใด แต่เป็นการใช้อำนาตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยืนยัน ว่าเราไม่อนุญาตให้รถที่ไม่ผ่านมาตรฐานวิ่งในกทม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• อุ๊งอิ๊ง จัดรถเมล์ไฟฟ้า นำทีมผู้สมัครส.ส.กทม.เพื่อไทย ไปสมัครลงเลือกตั้ง

• รถเมล์ร่วม รถเมล์เอกชน เปลี่ยนเป็นรถอีวี (รถ EV) โอนคาร์บอนเครดิตไปสวิสได้

• 5 วิธีแก้รถไม่ให้ควันดำ ก่อนถูกจับปรับ หลังกรมขนส่งฯเร่งตรวจ แก้ PM2.5

หลังจากผ่านร่างกฎหมายวาระ 1 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 แล้ว คาดว่าจะผ่านวาระที่ 3 ในการประชุมสมัยหน้า คือต้นเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งหากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านสิ่งที่จะทำต่อไปคือ การเดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมือง เช่น แก้ไขข้อบัญญัติควบคุมอาคาร ที่จะมีการกำหนดเรื่องการควบคุมการปล่อยความร้อนและเพิ่มื้นที่สีเขียว หลังจากนั้นจะเดินหน้าลดการปล่อยฝุ่น PM2.5 จากแหล่งต้นทางอื่น

“ปัญหาสิ่งแวดล้อมของคนกรุงเทพฯ เป็นปัญหาที่เรารอไม่ได้ ทุกวันนี้คนกรุงเทพฯ แม้แต่คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ก็กำลังสูดมลพิษทางอากาศเข้าไป เท่ากับสูบบุหรี่วันละ 3.2 มวน อากาศในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ทุกคนใช้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ข้อบัญญัติแบบนี้จึงสมควรมีตั้งนานแล้ว” พุทธิพัชร์กล่าว

นอกจากนี้ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้แสดงความเห็นต่อความสำเร็จของพรรคก้าวไกลในสภากรุงเทพฯ ว่า กฎหมายรถเมล์อนาคตผ่านสภากรุงเทพเป็นการเปิดมิติใหม่ในการพัฒนาเมือง

• ชัชชาติย้ำ จะคุมเข้ม จับตรวจรถควันดำและไซต์ก่อสร้าง ต้นเหตุ PM 2.5

• แพทย์เตือน! "ฝุ่น PM2.5" สูดดมต่อเนื่องระยะยาว กระทบปอด-เสี่ยงมะเร็ง

รถเมล์ไฟฟ้าจะช่วยเรื่องการลดมลพิษทางอากาศ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนกรุงเทพ ตนภูมิใจมากที่พรรคก้าวไกลเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ และผลักดันจนเป็นกฎหมายเมืองออกมาได้สำเร็จ และมากไปกว่านั้น กฎหมายเมืองฉบับนี้คือมิติใหม่ของการเมืองท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ที่ผ่านมา เราแทบไม่เคยเห็นกรุงเทพ, อบจ. จังหวัดต่างๆ, เทศบาล หรือ อบต. เสนอกฎหมายเพื่อการพัฒนาบ้านเมืองตัวเองเลย การพัฒนาล้วนแต่ถูกกำหนดกฎเกณฑ์และรูปแบบผ่านส่วนกลาง

ธนาธรกล่าวเพิ่มเติมว่ากฎหมายฉบับนี้จึงเป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์ของการพัฒนาท้องถิ่น เป็นการเปิดประตูบานใหม่ เป็นการเพิ่มเครื่องมือในการพัฒนาเมืองให้กับท้องถิ่น

“ผมหวังว่าในอนาคต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ จะนำเครื่องมือนี้มาใช้พัฒนาบ้านเมืองตัวเองมากขึ้น และผมหวังว่าคนกรุงเทพจะเห็นถึงความตั้งใจของพรรคก้าวไกล ทั้งในการดูแลประชาชน ดูแลสิ่งแวดล้อม และมลพิษทางอากาศ และในทางความพยายามที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่คนมักคิดว่าเป็นไปไม่ได้”

“นี่คือการพิสูจน์แนวทางการทำงานของพรรคก้าวไกล ว่าเป็นไปได้ และสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง” ธนาธรกล่าวทิ้งท้าย