svasdssvasds

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่ง 50% ปี 2025 จีนครองแชมป์เบอร์ 1

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่ง 50% ปี 2025 จีนครองแชมป์เบอร์ 1

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกยังคงเติบโตในช่วงต้นปี 2025 ข้อมูลจาก Rho Motion เผยให้เห็นภาพรวมที่น่าสนใจและแนวโน้มที่น่าจับตามองในอนาคต

SHORT CUT

  • จีน ครองส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุดและมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ที่กลับมาได้รับความนิยมแซงหน้า PHEV อีกครั้ง สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดภายในประเทศและความสำเร็จของผู้ผลิตจีนอย่าง BYD
  • ตลาด EV ยุโรปโดยรวมยังคงเติบโต แต่การเติบโตหลักมาจาก BEV ในขณะที่ PHEV ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน (โดยเฉพาะในฝรั่งเศส) เนื่องมาจากนโยบายภาษีที่เปลี่ยนแปลงไป แสดงให้เห็นว่านโยบายของรัฐมีผลโดยตรงต่อทิศทางของตลาด
  • ตลาดอเมริกาเหนือเติบโตคงที่ แต่มีความไม่แน่นอนจากนโยบายที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต (การยกเลิกเครดิตภาษี) ขณะเดียวกัน Tesla ผู้นำตลาด BEV กำลังเผชิญความท้าทายจากคู่แข่งรายใหม่ๆ โดยเฉพาะจากจีน ทำให้การแข่งขันในตลาด EV ทั่วโลกทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกยังคงเติบโตในช่วงต้นปี 2025 ข้อมูลจาก Rho Motion เผยให้เห็นภาพรวมที่น่าสนใจและแนวโน้มที่น่าจับตามองในอนาคต

Rho Motion รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 พุ่งสูงถึง 1.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

แม้ว่าจะลดลงเล็กน้อยจากเดือนมกราคม แต่ภาพรวมยอดขายสะสมสองเดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์) ยังคงเติบโตอย่างน่าประทับใจที่ 30% คิดเป็นยอดขายรวม 2.4 ล้านคัน

CREDIT : Rhomotion

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ปี 2025 พุ่ง 50% เทียบกับปี 2024 (ม.ค.-ก.พ.)

  • ทั่วโลก: +30% (ขายได้ 2.4 ล้านคัน)
  • จีน : +35% (ขายได้ 1.4 ล้านคัน)
  • ยุโรป : +20% (ขายได้ 0.5 ล้านคัน)
  • อเมริกาเหนือ : +20% (ขายได้ 0.3 ล้านคัน)
  • อื่นๆ : +35% (ขายได้ 0.2 ล้านคัน)

จีน ผู้นำตลาดที่แข็งแกร่ง

ประเทศจีน ยังคงเป็นผู้นำตลาด EV โลกอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขาย 1.4 ล้านคันในช่วงสองเดือนแรกของปี 2025 เติบโตขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 ที่น่าสนใจคือ ปีนี้รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) กลับมาได้รับความนิยมในจีนอีกครั้ง

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่ง 50% ปี 2025 จีนครองแชมป์เบอร์ 1

โดยเติบโตถึง 46% แซงหน้ารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่เติบโต 22% BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ยังคงเดินหน้าขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับกำแพงภาษีในบางภูมิภาค

ยุโรป BEV มาแรง PHEV ชะลอตัว

ตลาดยุโรป (EU, EFTA, และ UK) มียอดขายรวม 0.5 ล้านคัน เติบโต 20% โดย BEV เป็นตัวขับเคลื่อนหลักด้วยอัตราการเติบโต 29% ขณะที่ PHEV เติบโตเพียง 2% เท่านั้น

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่ง 50% ปี 2025 จีนครองแชมป์เบอร์ 1

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายภาษีน้ำหนักของฝรั่งเศสที่ส่งผลกระทบต่อยอดขาย PHEV อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เยอรมนีและสหราชอาณาจักรยังคงเป็นตลาด BEV ที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราการเติบโตกว่า 40%

อเมริกาเหนือ เติบโตคงที่ จับตานโยบาย

ตลาดอเมริกาเหนือ (สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, และเม็กซิโก) มียอดขาย 0.3 ล้านคัน เติบโต 20% โดยเม็กซิโกมีการเติบโตที่โดดเด่นเนื่องจากการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่เพิ่มขึ้น

สหรัฐอเมริกาเองก็มีการเติบโตของ BEV ที่ 28% แต่สถานการณ์ในอนาคตยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากมีการเสนอร่างกฎหมายเพื่อยกเลิกเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดในระยะยาว

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่ง 50% ปี 2025 จีนครองแชมป์เบอร์ 1

Tesla แม้จะเป็นผู้ผลิต BEV รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทกลับเผชิญกับความท้าทายในช่วงต้นปี 2025 โดยยอดขายในยุโรปและจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสวนทางกับการเติบโตของตลาดโดยรวม สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาด EV

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่ง 50% ปี 2025 จีนครองแชมป์เบอร์ 1

ผู้ผลิตรถยนต์รายใหม่ๆ โดยเฉพาะจากประเทศจีน กำลังเข้ามาท้าทายผู้เล่นเดิมในตลาด ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และอาจส่งผลให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าลดลงในอนาคต

นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น เงินอุดหนุน, สิทธิประโยชน์ทางภาษี, และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด EV ในแต่ละภูมิภาค

การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลต่อระยะทางวิ่ง, เวลาในการชาร์จ, และต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภค

ถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงจะมีผลโดยตรงและมากขนาดนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคบางส่วนจะนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อรถยนต์

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีจีนเป็นผู้นำและยุโรปเป็นตลาดสำคัญที่น่าจับตามอง

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่เข้มข้น นโยบายที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ตลาด EV ในปี 2025 เต็มไปด้วยความน่าสนใจและความไม่แน่นอน ผู้บริโภคและผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์จึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ที่มา : Rhomotion

related