KIA ชี้ EV แห่งอนาคตอาจต้องรอถึง 2030 แบตเตอรี่ Solid-State ซับซ้อนกว่าที่คิด
ในขณะที่โลกต่างจับตามองนวัตกรรมแบตเตอรี่โซลิดสเตทที่สัญญาว่าจะมอบระยะทางที่ยาวขึ้นและชาร์จเร็วขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Hyundai Motor Group โดยเฉพาะ Kia ระบุว่าเทคโนโลยีนี้ยังต้องใช้เวลาพัฒนาอีกหลายปี ก่อนจะพร้อมสำหรับตลาดมวลชน
SHORT CUT
- KIA (Hyundai Motor Group) มองว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State ยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในตลาด Mass Market ก่อนปี 2030 เนื่องจากความซับซ้อนทางเทคนิคที่มากกว่าคาด
- ค่ายรถญี่ปุ่น (Toyota, Honda, Nissan) ตั้งเป้าพัฒนา Solid-State เร็วกว่า แต่ค่ายจีน (CATL, BYD, ฯลฯ) อาจเป็นม้ามืด ด้วยศักยภาพด้านการผลิตและเงินทุน
- ปัจจุบัน LFP/NMC ยังครองตลาด ระหว่างรอ Solid-State, แบตเตอรี่ LFP (ราคาประหยัด) และ NMC (เน้นสมรรถนะ) ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
ในขณะที่โลกต่างจับตามองนวัตกรรมแบตเตอรี่โซลิดสเตทที่สัญญาว่าจะมอบระยะทางที่ยาวขึ้นและชาร์จเร็วขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Hyundai Motor Group โดยเฉพาะ Kia ระบุว่าเทคโนโลยีนี้ยังต้องใช้เวลาพัฒนาอีกหลายปี ก่อนจะพร้อมสำหรับตลาดมวลชน
แบตเตอรี่โซลิดสเตท กำลังเป็นที่พูดถึงในวงการยานยนต์ไฟฟ้า เพราะจะสามารถยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าด้วยระยะทางที่วิ่งได้ไกลขึ้นเวลาชาร์จที่เร็วกว่าเดิม
Spencer Cho, หัวหน้าฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ระดับโลกของ Hyundai Motor Group, กล่าวย้ำในงานเปิดตัว Kia EV4 ถึงความท้าทายทางเทคนิคของแบตเตอรี่ Solid-State
'เทคโนโลยีนี้อาจซับซ้อนกว่าที่คาดการณ์' ซึ่งจะสามารถทำให้ใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าระดับ Mass Market อาจต้องรอถึงปี 2030 เป็นอย่างน้อย
ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์ชาวญี่ปุ่นอย่าง Toyota, Honda และ Nissan กำหนดเวลาที่ค่อนข้างเข้มข้น
- Toyota : วางแผนเปิดตัว EV ที่ใช้แบตเตอรี่ Solid-State รุ่นแรกในปี 2027-2028 แม้จะยอมรับว่ารุ่นสำหรับตลาด Mass Market จะตามมาในปี 2030
- Honda : กำลังทดสอบแบตเตอรี่ Solid-State ที่อาจให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 1,000 กิโลเมตร
- Nissan : พัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State ที่มีความจุมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถึงสองเท่า โดยตั้งเป้าว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2028
แม้ว่าแบตเตอรี่โซลิดสเตทยังไม่พร้อมใช้งานในทันที Hyundai และ KIA ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งการใช้แบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate (LFP) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาย่อมเยา และเซลล์ Nickel Manganese Cobalt (NMC) สำหรับรุ่นที่เน้นสมรรถนะสูง
แนวทางนี้ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีจากรถยนต์ไฟฟ้าในระยะเวลาอันใกล้ ในขณะที่การปฏิวัติด้านแบตเตอรี่โซลิดสเตทยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา
สิ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือ ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ซึ่งอาจกลายเป็น "ม้ามืด" ในการแข่งขันพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State
- CATL : ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดของโลกจากจีน กำลังลงทุนอย่างมหาศาลในการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State และมีรายงานว่าใกล้จะประสบความสำเร็จในการผลิตเชิงพาณิชย์
- BYD, Nio, Xpeng : ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน ก็กำลังร่วมมือกับพันธมิตรและสถาบันวิจัยต่างๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State ของตนเอง
ด้วยเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาล, ความสามารถในการผลิตจำนวนมาก, และความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี EV ทำให้ค่ายรถยนต์และผู้ผลิตแบตเตอรี่จากจีน อาจเป็นผู้ที่นำแบตเตอรี่ Solid-State มาสู่ตลาดได้เร็วกว่าที่หลายคนคาดการณ์
ที่มา : ArenaEV
