SHORT CUT
ซูเปอร์โบว์ (Super Bowl) ครั้งที่ 59 กำลังจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่ถึง 24 ชั่วโมงข้างหน้าแล้ว โดยในปีนี้เป็นการเข้าชิงกันระหว่าง “ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์” แชมป์สาย NFC พบกับ “แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์” ซึ่งกำลังจะกลายเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ได้ 3 สมัยติดต่อกันเป็นทีมแรกในศึก NFL
ต้องบอกว่า “ซูเปอร์โบว์” คือ งานมหรสพรที่มียอดผู้ชมมากที่สุดในโลก มากกว่างานประกาศรางวัลออสการ์เสียอีก จากการเก็บข้อมูลของ Nielsen TV ratings พบว่า Super Bowl ในปี 2015 มียอดผู้ชมทะลุ 114.4 ล้านคนในอเมริกา และกลายเป็นรายการที่มีคนดูมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
มีพื้นที่ดังกล่าวมีผู้คนเห็นเยอะ จึงนำมาสู่ราคาอันมหาแสนแพงของแอร์ไทม์โฆษณาระหว่างการแข่งขัน ซึ่งว่ากันว่าราคาพุ่งไปอยู่ที่ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อนาที หรือจิ้มเครื่องคิดเลขเป็นเงินไทยแล้วกว่า 200 ล้านบาท แต่ต้องบอกว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
นอกจากการแข่งขันกีฬาแล้ว สิ่งซึ่งผู้ชมรอคอยมากที่สุดคือ “โชว์พักครึ่ง” หรือ Halftime Shows ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานั้น มีโชว์พักครึ่งระดับตำนานมากมายด้วยกัน อาทิ ไมเคิล แจ็กสัน 1993, เจนิเฟอร์ โลเปซ และชากีร่า 2020, ดร.เดร กับก๊วน 2022 ฯลฯ ซึ่งในปีนี้เราจะได้ดูโชว์ของ "เคนดริก ลามาร์” (Kendrick Lamar)
แน่นอนว่างานใหญ่ ๆ เช่นนี้ย่อมมีต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องแลกเปลี่ยนกัน มีการศึกษาจาก Payless Power ระบุว่า ชาวอเมริกันใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 36.39 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) จากการรับชม Super Bowl ปี 2024 ทางโทรทัศน์ ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้พลังงานให้กับบ้านเกือบ 2,000 หลังตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบได้กับการขับรถะยะทาง 36,467,942 ไมล์ หรือสามารถชาร์จมือถือได้ 1,150 ล้านเครื่องเลยทีเดียว และถ้าหากนับย้อนกลับไปถึง Super Bowl ทั้ง 58 ครั้งจนถึงปัจจุบัน กดเครื่องคิดเลขออกมาแล้วจะพบว่ากินใช้พลังงานมากกว่า 1,455 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (KWH) ซึ่งเพียงพอต่อการจ่ายไฟให้กับบ้านกว่า 76,000 หลังตลอดทั้งปี
ผลที่ตามมาคือ การใช้ไฟด้วยจำนวนนี้ (1,455 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง) ก่อให้เกิดการปล่อยคาร์บอนเทียบเท่ากับการเผาไหม้ของน้ำมันเบนซิล 64,429,265 แกลลอน หรือมากพอที่จะให้พลังงานแก่รถยนต์ไฟฟ้า 505,678 คันต่อปี
ทั้งนี้ การศึกษาได้จำแนกการใช้ไฟในการรับชมโชว์พักครึ่งไว้อย่างละเอียด ตัวเลขด้านล่างนี้จะบอกหมดเลยว่าแฟน ๆ ทีมไหนใช้ไฟมากที่สุด โดยวัดจากระยะเวลาการเปิดทีวีรับชม Super Bowl
ด้านบนที่กล่าวมาคือจุดที่สื่อ และผู้บริโภคโจมตีงาน Super Bowl ว่าไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถ้าไม่ลงมือทำอะไร ก็จะยังคงเป็นขี้ปากชาวบ้านต่อไปเช่นนี้ ทำให้ในปีนี้ ซูเปอร์โบว์เตรียมตัวหลายอย่าง ๆ เพื่อให้งานแข่งขันครั้งนี้ “กรีนที่สุด”
อย่างแรก งานปีนี้จะใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมด โดยได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ 621,000 แผง ไว้ที่ทะเลทรายในรัฐเนวาดา และจะจ่ายไฟไปยังสนามกีฬา Allegiant Stadium ในลาสเวกัส 100%
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ทำให้ผลิตพลังงานได้เพียงพอสำหรับบ้าน 60,000 หลัง ซึ่งเพียงพอสำหรับการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ ซึ่งต้องใช้พลังงานประมาณ 10 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ยังกำหนดแนวทางการกำจัดขยะเอาไว้อย่างชัดเจน แทนที่จะลงเอยในหลุงฝังกลบ ขยะอาหารประมาณ 12,000 ปอนด์จากการแข่งขันจะถูกเก็บรวมรวบ และส่งต่อให้กับฟาร์มปศุสัตว์ในระแวกเพื่อให้น้อง ๆ ได้กินอิ่มพุงพลุ้ย
ที่มา: Sustainabilitymag, Studyfinds
ข่าวที่เกี่ยวข้อง