ฮ่องกง เจอปัญหา ‘สถานีชาร์จรถไฟฟ้า’ ไม่เสถียร ชาร์จไม่เต็ม เรียกเก็บเงินผิด
ปี 2567 ที่ผ่านมา สภาผู้บริโภคฮ่องกง ได้รับเรื่องร้องเรียน 179 เรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่วนใหญ่ปัญหาที่ถูกร้องเรียนคือเรื่อง บริการชาร์จ และค่าธรรมเนียมที่ไม่ชัดเจน
ถือเป็นปรกติ ที่จะมีการร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ ในกรณีรถไฟฟ้าในฮ่องกงนั้น ตัวเลขวิ่งอยู่แถว ๆ นี้ ปี 2024 ถูกรายงาน 179 เรื่อง ส่วนปี 2023 ถูกรายงาน 122 เรื่อง และ 207 เรื่องในปี 2022
หนึ่งปัญหาที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเจอร่วมกันคือ สถานีชาร์จในเขตที่พักอาศัยนั้นหยุดชาร์จไปเองดื้อ ๆ ช่วงกลางดึก ผู้ร้องเรียนรายหนึ่ง เผยว่า เขาเลือกใช้บริการ 12 ชั่วโมง สำหรับ 50 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 125 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 553 บาท
สิ่งที่เขาค้นพบ (จับผิด) ก็คือ บางครั้ง สถานีก็ใช้เวลาชาร์จเพียง 11 ชั่วโมง กับอีกไม่กี่นาที และชาร์จไฟได้แค่ 44 กิโลวัตต์เท่านั้น และอีกหลายครั้งที่ชาร์จได้เพียง 41.1 กิโลวัตต์
ขณะที่หญิงอีกราย เปิดเผยว่า เธอถูกเรียกเก็บ Idle fees เป็นจำนวน 150 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 663 บาท โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งที่เธอจอดชาร์จแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเงิน 16.2 ดอลลาร์ฮ่องกง
Idle fees คือการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม (สำหรับผู้หัวหมอ) ที่นำรถไปชาร์จที่สถานี และชาร์จเสร็จเรียบร้อย แต่ไม่ยอมขับออก จอดทิ้งไว้เฉย ๆ อาจจะนอนหลับ หรือไปทำธุระ โดยคิดนาทีละ 5 ดอลลาร์ฮ่องกง
จะเห็นว่าส่วนใหญ่แล้ว สิ่งซึ่งถูกร้องเรียนมากที่สุดนั้นเกี่ยวกับ สถานีชาร์จ พลิกไปดูข้อมูลจากกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมฮ่องกง พบว่า ฮ่องกงมีสถานีชาร์จอยู่ประมาณ 10,400 จุด (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2567)
จากเรื่องราวนี้สะท้อนว่าสถานีชาร์จ (บางส่วน) ยังไม่มีความเสถียร เบื้องต้น บริษัทให้บริการสถานีชาร์จได้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเสนอคืนเงินให้กับผู้ร้องเรียน ทั้งยังเปิดเผยว่าจะเร่งพัฒนาสถานีชาร์จของตนเองให้มีความเสถึยรภาพมากกว่านี้
ถือเป็นเรื่องที่ต้องแก้ปัญหา คลำหาวิธีกันต่อไป แต่อย่างไรก็ดี จอห์น ลี ผู้นำของฮ่องกง เปิดเผยว่า เตรียมผลักดันให้ติดตั้งสถานีชาร์จ EV 200,000 จุด ภายในงบประมาณปี 2027 ทั้งยัง สำรอง 300 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ให้เอกชนนำไปจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า
ที่มา: South China Morning Post
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
