SHORT CUT
สหภาพยุโรป (EU) ตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เหตุผลหลักๆ คือ EU มองว่าจีนให้เงินอุดหนุนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้รถจีนราคาถูกกว่ารถยุโรป จึงต้องขึ้นภาษีเพื่อความเป็นธรรมในการแข่งขัน
สหภาพยุโรป (EU) ประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม EU ชี้แจงว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ทำให้มีข้อได้เปรียบด้านราคาเหนือผู้ผลิตในยุโรป ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาด
ภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจีนจะถูกปรับเพิ่มจาก 10% ดังนี้ SAIC: 35.3%, Geely: 18.8%, BYD: 17%, Tesla: 7.8% (แม้ Tesla ไม่ใช่บริษัทจีน แต่รถยนต์ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในยุโรปผลิตในจีน) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายอย่างแน่นอน เพราะรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในยุโรปคือ Tesla และ MG หรือ SAIC Motors นั่นเอง
EU ระบุว่าอัตราภาษีที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับระดับของหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและการทุ่มตลาด มาตรการนี้อาจมีนัยยะแอบแฝงในการกดดันให้ผู้ผลิตจีนบางรายปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หรืออาจเป็นการสร้างความแตกแยกภายในอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน
การตัดสินใจขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีนครั้งนี้ ประเทศสมาชิก EU มีความเห็นไม่ตรงกัน บางประเทศอย่างฝรั่งเศส อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ เห็นด้วยกับการขึ้นภาษี แต่อีกฝั่งอย่างเยอรมนี ฮังการี และสโลวาเกีย กลับไม่เห็นด้วย แสดงให้เห็นว่า EU ต้องเจอปัญหาหนักใจในการตัดสินใจ เพราะต้องรักษาสมดุลทั้งเรื่องผลประโยชน์ทางการค้าของตัวเอง และเรื่องการแข่งขันที่เป็นธรรมด้วย
แม้ EU จะประกาศว่าการขึ้นภาษีมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม แต่ก็มีการวิเคราะห์ว่า EU อาจมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง เช่น
ปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรป : ต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในยุโรปมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมภายในภูมิภาค
ลดการพึ่งพาจีน : อาจต้องการลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากจีนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี : อาจต้องการกระตุ้นให้บริษัทยุโรปพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าขั้นสูง เพื่อแข่งขันกับจีนในระยะยาว
การขึ้นภาษีจะทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าจีนในยุโรปสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ผู้ผลิตอาจพิจารณาปรับลดราคา เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน, ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า
กระทรวงพาณิชย์ของจีน แสดงการคัดค้านอย่างรุนแรงต่อแผนการขึ้นภาษี โดยเรียกภาษีเหล่านี้ว่า "ไม่ยุติธรรม ไม่ปฏิบัติตามกฎ และไม่มีเหตุผล" และได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อองค์การการค้าโลก (WTO)
ในสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้ ปักกิ่งได้เริ่มการสอบสวนการนำเข้าบรั่นดี ผลิตภัณฑ์นม และผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมูของสหภาพยุโรปในปีนี้ ส่วนสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษี 100% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากจีน
EU และจีนกำลังดำเนินการเจรจาเพื่อหาทางออกภายใต้กรอบขององค์การการค้าโลก (WTO) อย่างไรก็ตาม จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการอุดหนุน และอาจตอบโต้ด้วยมาตรการทางการค้า ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจ
การขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีนของ EU ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าโลก ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง EU และจีน และระบบการค้าโลกโดยรวม ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ และผลกระทบระยะยาวต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด
ที่มา : Bloomberg