svasdssvasds

BYD ลดราคา สะเทือนผู้บริโภคไทย ค่าย EV จีนเผย ต้นทุนถูกลง แค่ "กลยุทธ์การตลาด"

BYD ลดราคา สะเทือนผู้บริโภคไทย ค่าย EV จีนเผย ต้นทุนถูกลง แค่ "กลยุทธ์การตลาด"

BYD ปรับลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ ฉลองการเปิดโรงงานผลิตรถ EV ในไทย ซึ่งได้สร้างกระแสดราม่ามากมายให้กับผู้ที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามชวนมาดูกันว่าการลดราคาครั้งนี้จะส่งผลต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและคนไทยอย่างไรบ้าง

SHORT CUT

  • BYD ลดราคาแรง กระทบผู้บริโภค ผู้ซื้อใหม่ได้ราคาถูก แต่ผู้ซื้อก่อนหน้ารู้สึกไม่เป็นธรรม กขค. ยันกลยุทธ์นี้ไม่ผิดกฎหมาย
  • ผู้บริโภคไทยได้อะไรบ้าง? ตัวเลือกรถ EV หลากหลายมากขึ้น ราคาถูกลง และยังสามารถจับตาดูโปรโมชั่นจากแบรนด์อื่นๆในตลาดได้ด้วย
  • อนาคตตลาดรถ EV จีน ครองแชมป์ตลาด EV โลก และในปัจจุบันราคาแข่งขันกับรถสันดาปได้แล้ว ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบ วางแผนการเงินก่อนซื้อ

BYD ปรับลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ ฉลองการเปิดโรงงานผลิตรถ EV ในไทย ซึ่งได้สร้างกระแสดราม่ามากมายให้กับผู้ที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามชวนมาดูกันว่าการลดราคาครั้งนี้จะส่งผลต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและคนไทยอย่างไรบ้าง

BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ที่เข้ามาตีตลาด พร้อมเปิดโรงงานผลิตในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ บริษัท BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำจากประเทศจีน ได้ประกาศเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง โรงงานแห่งนี้มีขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 948,000 ตารางเมตร รองรับกำลังการผลิตสูงสุดถึง 150,000 คันต่อปี

ซึ่งปัจจุบัน BYD Atto 3 และ BYD Dolphin ได้มีการลดราคาสูงสุดถึง 340,000 บาท ทำให้คนที่สนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสามารถซื้อได้ง่ายขึ้นอีก กลับกันผู้ที่ซื้อ BYD ไปก่อนหน้านี้ก็ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมเกี่ยวกับราคาที่ลดลงรวดเร็วมาก หรือเรียกว่า "ติดดอย" นั่นเอง

BYD ลดราคา สะเทือนผู้บริโภคไทย ค่าย EV จีนเผย ต้นทุนถูกลง แค่ \"กลยุทธ์การตลาด\"

BYD ถือเป็นเจ้าใหญ่ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 2 ของโลก ซึ่งยังได้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ของตัวเองออกมาเพื่อต่อสู้กับตลาดโลก และการปักหลักตั้งโรงงานผลิตประเทศไทยถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเพราะไทยจะมีโอกาสจะเป็น EV Hub ในอาเซียนในอนาคตได้ง่ายขึ้น

ย้อนกลับมาที่ผู้บริโภคเอง การลดราคาครั้งนี้ส่งผลดีและผลเสียต่อคนไทยในหลายแง่มุม ซึ่งหากซื้อ BYD ในปัจจุบันก็จะได้ในราคาที่ถูกกว่าหลักแสน ส่วนใครที่ตัดสินใจซื้อไปก่อนหน้านี้ก็อาจรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เพราะเพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาราคารถยังคงสูงกว่าตอนนี้อยู่มาก

ล่าสุดเกี่ยวกับกระแสดราม่าการลดราคาของ BYD ได้ถูกยืนยันโดย กขค. (คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า) โดยระบุว่า เป็นกลยุทธ์การตลาด ยังไม่ขัดกฎหมาย พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ซึ่งท่ามกลางปัญหาทั้งสองฝั่งของผู้บริโภค ระหว่างคนที่ซื้อไปก่อนหน้านี้และคนที่ได้ราคาโปรโมชั่น เราจึงอยากชวนมาดูกันว่าอนาคตตลาดรถ EV จะเป็นยังไงต่อ และในแง่ของผู้บริโภคมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง กับการที่ BYD ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบนี้

BYD ลดราคา สะเทือนผู้บริโภคไทย ค่าย EV จีนเผย ต้นทุนถูกลง แค่ \"กลยุทธ์การตลาด\"

การลดราคาครั้งใหญ่ของ BYD รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน กำลังสั่นสะเทือนตลาดรถ EV ในประเทศไทย กลยุทธ์นี้ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคอย่างมาก แต่ท่ามกลางกระแสความฮือฮา คำถามสำคัญคือ ผู้บริโภคไทยจะได้อะไร จากการลดราคาครั้งนี้?

ปี 2566 จีนครองแชมป์ ผลิตรถอีวีภายในประเทศ 9.5 ล้านคัน เติบโต 35% ส่งออก 1.2 ล้านคัน พุ่ง 77.6% สูงสุดในโลก เนื่องจากมีนโยบายรัฐหนุน เทคโนโลยีล้ำหน้าไปไกลและยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม ซึ่งเรียกได้ว่าจีนมีศักยภาพเป็นผู้นำตลาดอีวีโลกเลยก็ว่าได้

และไม่ใช่แค่ BYD ที่ลดราคา ตลาดอีวีไทยคึกคักตั้งแต่ต้นปี 2567 หลายแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์ลดราคาดึงดูดลูกค้า เช่น MG ลดราคา SUV 2 รุ่นหลัก สูงสุด 110,000-160,000 บาท เมื่อเดือน พ.ค. , แบรนด์ใหญ่อย่าง Tesla ปรับลดราคา Model Y ลง 3 รุ่นย่อย ตั้งแต่ 50,000-150,000 บาท 

สงครามราคารถ EV ร้อนแรงขึ้น ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น ผู้บริโภคจับตาดูกันว่าแบรนด์อื่นๆจะมีโปรโมชั่นอะไรตามมาอีก ซึ่งยักษ์ใหญ่ฝั่งจีน ก็ยังได้เผยออกมาเพิ่มเติมว่า "รถ EV ขณะนี้สามารถแข่งขันในด้านราคากับรถสันดาปได้แล้ว" นั่นเป็นเหตุผลสั้นๆว่า ทำไม EV จีนถึงสามารถหั่นราคาและต่อสู้กับคู่แข่งได้เป็นอย่างดี โดยในเฉพาะในประเทศไทยที่มีมาตรการรัฐที่ช่วยลดภาษีนำเข้ารถ EV จีน เท่ากับ 0% นั่นเอง

BYD ลดราคา สะเทือนผู้บริโภคไทย ค่าย EV จีนเผย ต้นทุนถูกลง แค่ \"กลยุทธ์การตลาด\"

สรุปได้ว่าขณะนี้คนไทยก็ได้โอกาสในการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้หลากหลายรุ่นย่อย ซึ่งปัจจุบันถึงแม้รถ EV จีนจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ในอนาคตหากเทียบกันในด้านราคา รถ EV จีนก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตแทนรถสันดาปทั่วไปที่ต้องจ่ายค่าน้ำมันอยู่ 

"สงครามราคารถ EV" นำมาซึ่งโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงรถ EV ได้ง่ายขึ้น แต่ ผู้บริโภค ควร ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบอย่างรอบคอบ วางแผนการเงิน และ เตรียมตัว ให้พร้อมก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะเชื่อว่าค่ายจีนจะต้องมีอะไรอีกเพื่อครองตลาดโลกในอนาคต

ที่มา : Nikkei Asia , Reuters

related