ลงทุนพลังงานสะอาดมาแรง ! ธุรกิจโซลาร์เซลล์บูมสุด ชี้ 3 ปี สัดส่วนเพิ่ม30%

มาถึงตอนนี้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เป็นเรื่องที่หลายประเทศให้ความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของพลังงานสะอาด พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะไทยมีเป้าหมายมุ่งสู่พลังงานสะอาด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนไดออกไซด์) สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายใน ค.ศ. 2065-2070 (พ.ศ.2608-2613) หรืออีก 49 ปีข้างหน้าที่จะถึงนี้

ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนจึงทำให้ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ ต่างเดินหน้าในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และเลือกใช้พลังงานสีเขียว พลังงานทดแทน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนทำให้ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนกำลังได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักลงทุน ล่าสุดณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ  เปิดเผยข้อมูลว่า การลงพลังงานหมุนเวียนในไทย กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากยอดขอส่งเสริมลงทุน6เดือน ปี 2566พุ่งสูงกว่า 8.3 พันล้านบาท และมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รู้หรือไม่? แผงโซลาร์เซลล์ ช่วงหน้าฝนใช้งาน ผลิตกระแสไฟฟ้า ได้อยู่มั้ย !

• รับมือค่าไฟแพง ! โอกาสทองบ้านที่อยากติดโซลาร์เซลล์ หลังราคาแผงโซลาร์ลดลง

• สานฝัน ! คนอยากลดค่าไฟ ออมสินให้กู้เงินติดหลังคาโซลาร์เซลล์ ผ่อนต่ำ

จากกระแสความร้อนแรงของธุรกิจพลังงานสะอาดในตอนนี้ จึงไม่แปลกที่จะมีการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจโซลาร์เซลล์ ที่มีทั้งแบรนด์ไทย และต่างชาติ ต่างตบเท้าเข้าลงทุนรับตลาดโซลาร์เซลล์ที่กำลังเติบโต วันนี้จะพามาฉายภาพธุรกิจธุรกิจโซลาร์เซลล์ ในประเทศไทย ณ ตอนนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายไววิทย์ อุทัยเฉลิม กรรมการบริหาร บริษัทซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย จำกัด ผู้นำเข้า จัดจำหน่าย และให้บริการติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายรายใหญ่แต่เพียงรายเดียวในประเทศไทยของแบรนด์ทงเวย โซลาร์ ของบริษัททงเวย โซลาร์ หรือ TW SOLAR ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ (Photovoltaic: PV) ชนิดผลึกซิลิคอนรายใหญ่ที่สุดในโลก จากประเทศจีน บอกว่า ปัจจุบันมคนไทยตื่นตัวกันมากขึ้นในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เนื่องจากต้องการแก้ไขปัญหาค่าไฟแพง และอาจช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยลดโลกร้อน

ทั้งนี้หากมองในภาพรวมในขณะนี้ พบว่าไทยยังมีการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพียงแค่10 % ทิศทางแนวโน้มมีสูงขึ้นซึ่งคาดว่าภายใน3ปีต่อจากนี้ไปไทยจะมีสัดส่วนในการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้นเป็น30%และธุรกิจการติดตั้งและจำหน่ายโซลาร์เซลล์ จะคึกคักมากขึ้นผู้รับเหมารายย่อยเกิดขึ้นจำนวนมากและงานจะล้นมือมากขึ้นโดยปัจจัยบวกที่จะทำให้ธุรกิจการติดตั้งและจำหน่ายโซลาร์เซลล์รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเติบโตนอกจากประชาชนจะหาวิธีในการประหยัดไฟและช่วยลดโลกร้อนแล้ว ปัจจุบันมีหลายธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้ติดตั้งโซลาร์เซลล์มากขึ้นรวมถึงราคาแผงโซลาร์เซลล์และราคาติดตั้งก็ได้มีปรับตัวลดลงมาบ้างแล้ว และคาดว่าในอนาคตจะลดลงมาอีก

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลัก คือ บ้านเรือนประชาชน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ห้างค้าปลีก ค้าส่ง โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงหน่วยงานราชการ และกลุ่มที่ติดตั้งเพื่อผลิตไฟฟ้าจำหน่าย สำหรับภาคธุรกิจจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไฟฟ้าสีเขียวในการผลิตสินค้า เพราะในอนาคตต่างชาติจะเลือกซื้อสินค้าที่ใช้ไฟฟ้าสีเขียวในการผลิตเท่านั้น สำหรับปัจจัยอื่นๆ ที่เอื้อทำให้ไทยเหมาะกับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ คือ ไทยรับแสงอาทิตย์ได้ดี และไทยมีนโยบายส่งเสริมเรื่องพลังงานสะอาดแนวหน้าของเอเชีย

สำหรับงานบริการ และการติดตั้งโซลาร์เซลล์ แบรนด์ทงเวย โซลาร์ มีจุดเด่น คือ มีบริการครบวงจรใหญ่ที่สุดในจีน ตั้งแต่ต้นน้ำ ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ดี มีประสิทธิภาพในการรับแสงมากกว่า แม้ว่าอุณภูมิจะขึ้นลง แผงโซลาร์เซลล์ยังสามารถทำงานได้ดีกว่า ที่สำคัญแบรนด์ทงเวย โซลาร์ มีความชำนาญในการทำการตลาด และช่องทางการกระจายสินค้า พร้อมกันนี้เตรียมลงทุนเพิ่ม ตั้งเป้าอีก 2 ปี ลงทุน 70  สาขา

“แนวโน้มความต้องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนด้านราคาพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ก๊าซ แอลเอ็นจี ที่ต้องใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าในไทย ทำให้คนไทยต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าที่สูง นโยบายการขับเคลื่อนด้านพลังงานที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไทย จะสนับสนุนให้ประชาชนหันไปใช้พลังงานสะอาด พลังงงานจากแสงอาทิตย์ สนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงิน เราจึงมองหาพันธมิตรเพื่อจะสามารถตอบสนองกับความต้องการของตลาดในไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านกำลังการผลิตที่เพียงพอ ด้านราคาที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ด้านโซลาร์เซลล์ได้มากขึ้น และที่สำคัญคือคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล ซึ่งทงเวย โซลาร์ ถือเป็นแบรนด์ระดับโลกที่โดดเด่นทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต และคุณภาพของสินค้า”

สำหรับในช่วงแรกจะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้รับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ผู้ประกอบกิจการ โรงงาน สถานประกอบการ และกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่ อาคารชุด คอนโดมีเนียม หมู่บ้าน สำหรับลูกค้ารายย่อย ประชาชนทั่วไป สามารถขอรับคำแนะนำด้านผลิตภัณฑ์และการติดตั้งได้เช่นกัน ซึ่งบริษัทฯ จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อไปยังบริษัทผู้รับติดตั้งที่รับช่วงนำแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Module) ไปให้บริการ โดยเราตั้งเป้าว่าในปีแรกของการทำตลาดประเทศไทย จะสามารถจำหน่ายโซลาร์เซลล์ได้ไม่ต่ำกว่า 200 เมกะวัตต์พร้อมกันนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี จะสามารถสร้างรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท

ด้านนายแจ๊ค สวี๋ (Mr. Jack Xu) ผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านเทคนิคตลาดต่างประเทศ บริษัททงเวย โซลาร์ หรือ TW SOLAR ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ (Photovoltaic: PV) ชนิดผลึกซิลิคอนรายใหญ่ที่สุดในโลก จากประเทศจีน เปิดตัวผลิตภัณฑ์แผงโซลาร์เซลล์ ครั้งแรกในประเทศไทย และจัดให้มีพิธีลงนามสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัทซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย จำกัด ผู้นำเข้า จัดจำหน่าย และให้บริการติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ เพื่อเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายรายใหญ่ของ “ทงเวย โซลาร์” แต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย

โดยนายแจ๊ค สวี๋ กล่าวว่า ทงเวย เข้าสู่อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในปี 2006 หลังจากพัฒนาอย่างรวดเร็วกว่า 10 ปี ทงเวย ได้รับการจัดอันดับจาก Bloomberg New Energy Finance (BNEF) ให้อยู่ในกลุ่มเฟิร์สคลาส (Tier1) ของผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ (Photovoltaic Module) และเป็นที่ยอมรับว่า ทงเวย มีเทคโนโลยี อุปกรณ์การผลิต ระบบอัตโนมัติและระบบอัจฉริยะอยู่ในระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม PV สำหรับจุดเด่นของแผงโซลาร์เซลล์ (Photovoltaic: PV ) ชนิดผลึกซิลิคอนของ TW Solar คือการใช้ผลึกซิลิคอนที่มีความบริสุทธิ์สูง 99.99999% (เกรด AAA)

ซึ่งเป็นซิลิคอนที่ดีที่สุดในการผลิตแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์ มีความยืดหยุ่นในการป้องกันรอยแตกขนาดเล็กจากอุณหภูมิที่สูงมากและต่ำ จึงเหมาะกับสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย ประสิทธิภาพการแปลงเฉลี่ยมากกว่า 24.7% และกำลังโมดูลถึง 690 วัตต์ พร้อมการรับประกันวัสดุยาวนาน ตั้งแต่ 12-15 ปี ตามขนาดโครงการ  TW Solar ยังเป็นแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์เพียงรายเดียวที่อยู่ในการรับประกันผลิตภัณฑ์ของ PICC ซึ่งได้รับการรับรองโดยรัฐบาลจีน และจากการที่ TW Solar เป็นผู้ผลิตและควบคุมวัตถุดิบส่วนใหญ่ในการผลิต PV เอง จึงทำให้สามารถกำหนดราคาที่แข่งขันได้ในตลาดประเทศไทยได้อย่างเหมาะสม