สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) รายงานว่าปีนี้กำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นราว 1 ใน 3 ทั้งนี้มาจากความกังวลด้านความมั่นคงทางพลังงานที่ผลักดันให้คนหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นและภาครัฐบังคับใช้นโยบายที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
โดยสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้อัปเดตตลาดพลังงานหมุนเวียน IEA จากการรายงาน พบว่า กำลังผลิตพลังงานทดแทนทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 107 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดเท่าที่เคยมีมา โดยคาดว่าในปีหน้ากำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกจะแตะ 4,500 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งเทียบเท่ากับกำลังการผลิตไฟฟ้าของจีนและสหรัฐอเมริการวมกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
TGO เผยสถานการณ์ตลาดคาร์บอนเครดิต โครงการพัฒนาพลังงานทดแทนมาแรง
แบตเตอรี่โซเดียมไอออน จากแร่เกลือหิน ครั้งแรกในไทย รองรับพลังงานทดแทน
แผงโซลาร์เซลล์อัจฉริยะรูปทรง “ดอกทานตะวัน” สุดยอดแหล่งพลังงานทดแทน
ทั้งนี้ Fatih Birol ผู้อำนวยการบริหารของ IEA กล่าวว่า พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเป็นตัวหลักที่มีส่วนทำให้พลังงานสะอาดขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนในยุโรป ถือเป็นหัวใจสำคัญต่อการรับมือวิกฤตพลังงานหลังเกิดสงครามในยูเครน ขณะที่มาตรการเชิงนโยบายใหม่ยังช่วยผลักดันให้สหรัฐอเมริกาและอินเดียเพิ่มกำลังการผลิตในอีกสองปีข้างหน้า อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ยังคาดว่าประเทศจีนจะมีส่วนรับผิดชอบในการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เกือบ 55% ในปี 2023 และ 2024 ในรายงานยังระบุว่า โซล่าเซลล์ จะเพิ่มขึ้นราวสองในสาม และคาดว่าจะยังมีการเติบโตต่อเนื่องในปี 2024 เนื่องจากราคาค่าไฟของโลกเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้ผู้คนเริ่มหันมาติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ขณะที่พลังงานลมคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 70% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับการเติบโตต่อเนื่องในปี 2024 ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลของแต่ละประเทศว่าสามารถให้การสนับสนุนทางนโยบายได้แค่ไหน เพื่อจัดการกับความท้าทายในแง่ของการขอใบอนุญาตและการประมูลกำลังการผลิต