สายพลังงานสะอาดเฮ ! เมื่อศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์เรื่องเมื่อค่าไฟแพงเป็นเหตุ…ติดแผงโซลาร์ดีไหม จากผลงานวิจัย พบว่าแนวโน้มราคาแผงถูกลงโซลาร์เซลล์ลดลงต่อเนื่อง เพิ่มโอกาสติดตั้งได้ง่ายขึ้น คาดอีก 3 ปีค่าแผงลดลงอีก 20%
โลกกำลังสนใจ และเปลี่ยนแปลงสู่พลังงานสะอาด หลายประเทศกำลังเร่งเดินหน้าใช้พลังานสะอาดอย่างเข้มข้น ช่วยลดโลกร้อน แถมยังเป็นวิธีการประยัดค่าไฟอีกด้วย ไทยคืออีกหนึ่งประเทศที่กำลังให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดอย่างมาก และประชาชนคนไทยก็เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาค่าแพงพุ่งต่อเนื่อง อีกหนึ่งทางเลือกแก้ไขปัญหาค่าไฟแพง คือการติดตั้งโซลาร์เซลล์ สู่พลังงานอย่างเต็มรูปแบบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มัดรวมสินเชื่อรักษ์โลก! กู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ - ซื้อรถ EV มีธนาคารไหนบ้าง?
สานฝัน ! คนอยากลดค่าไฟ ออมสินให้กู้เงินติดหลังคาโซลาร์เซลล์ ผ่อนต่ำ
แต่…การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในบ้านเราก็ยังมีปัญหาและอุปสรรคหลายอย่าง ล่าสุดศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์เรื่องเมื่อค่าไฟแพงเป็นเหตุ…ติดแผงโซลาร์ดีไหม โดยเริ่มจากเปิดเผยสาเหตุก่อนว่า ค่าไฟฟ้าของครัวเรือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากค่า Ft ที่เร่งตัวสูงขึ้นผนวกกับความต้องการใช้ไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น โดยค่าไฟฟ้าของครัวเรือนสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2022 และเร่งตัวขึ้นมากในช่วงท้ายปีต่อเนื่องถึงต้นปีนี้
ซึ่งเป็นผลจากทั้ง1.ค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่เร่งตัว โดยค่าFt เร่งตัวตามต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติของโลกเป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นพลังงานหลักของการผลิตไฟฟ้าในไทย และไทยมีแนวโน้มพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติในตลาด Spot มากขึ้น ซึ่งมีราคาสูงกว่า 2-3 เท่าของราคาก๊าซธรรมชาติในแหล่งอ่าวไทย และเมียนมา และ2.ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะที่อากาศร้อนมากขึ้น ทำให้ต้องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่ค่าไฟฟ้าเป็นอัตราก้าวหน้า (ยิ่งใช้ไฟมาก ก็ยิ่งจ่ายแพง) โดยถ้าใช้ไฟฟ้ามากกว่า150 หน่วยค่าไฟฟ้าต่อหน่วย จะต้องจ่ายค่าไฟหน่วยถัดไปเพิ่มราว20-30%
แผงโซลาร์ที่ถูกลง เพิ่มโอกาสการติดตั้งให้ประชาชน
ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า ราคาแผงโซลาร์ที่ถูกลง เพิ่มโอกาสการติดตั้ง Solar rooftop ท่ามกลางค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นของครัวเรือน ขณะที่ต้นทุนการติดตั้ง Solar rooftop มีแนวโน้มลดลงตามราคาแผงโซลาร์ (ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของ Solar rooftop) ที่ลดลงต่อเนื่อง จึงช่วยเพิ่มโอกาสที่ครัวเรือนจะติดตั้ง Solar rooftop มีมากขึ้น
โดย SCB EIC คาดว่าราคาแผงโซลาร์จะยังคงลงต่อเนื่องในอีก 3 ปีข้างหน้าเกือบ 20% (เฉลี่ยปีละ 7%) จากที่ลดลงไปแล้วเกือบ 60% ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา1 ทั้งนี้รูปแบบการติดตั้ง Solar rooftop ในที่อยู่อาศัยยังคงกระจุกตัวอยู่ในรูปแบบ On Grid System 2 เนื่องด้วยต้นทุนแบตเตอรี่ที่ยังสูง ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญใน Off grid system และ Hybrid system
เปิด 3 เงื่อนไขติดตั้ง Solar rooftop
สำหรับใครที่อย่างติดตั้งโซลาร์เซลล์ ต้องรู้ 3 เงื่อนไขสำหรับการติดตั้ง Solar rooftop : 1) ค่าไฟฟ้า ≥ 3,000 บาท/เดือน 2) ใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวันมากกว่า 50% และ 3) เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยแนวราบที่หลังคาใช้วัสดุแข็งแรงและมีพื้นที่อย่างน้อย 14 ตร.ม. แม้โอกาสการติดตั้ง Solar rooftop จะมากขึ้นจากราคาที่ถูกลง แต่ก็ใช่ว่าครัวเรือนทุกหลังจากเหมาะสมที่จะติดตั้ง หากพิจารณาจากต้นทุน การประหยัดค่าไฟฟ้าพร้อมกับจุดคุ้มทุน ครัวเรือนที่เหมาะสมจะติดตั้ง Solar rooftop
1) ควรมีค่าไฟฟ้า 3,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป เนื่องจากหากค่าไฟฟ้าต่ำกว่านั้น จุดคุ้มทุนมีโอกาสเกือบเท่ากับอายุของแผงโซลาร์ที่ 25 ปี ทำให้ครัวเรือนไม่สามารถได้กำไรจากการติดตั้ง หรืออาจขาดทุน หากมีค่าใช้จ่าย Inverter เครื่องใหม่เกิดขึ้น
2) ควรใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันตั้งแต่ 50% ของการใช้ไฟฟ้าตลอดวัน เช่น บ้านที่มีผู้สูงอายุหรือผู้พิการที่ไม่ได้ทำงาน และ Home office เป็นต้น
3) เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีพื้นที่ติดตั้งอย่างน้อย 14 ตร.ม. ใช้วัสดุที่แข็งแรงรับน้ำหนักได้ และลาดเอียงทางทิศใต้/ตะวันตก/ตะวันตกเฉียงใต้
Solar rooftop ภาคครัวเรือนอาจมีอยู่ราว 1.7 แสนครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม SCB EIC คาดกลุ่มเป้าหมายในการติดตั้ง Solar rooftop สำหรับภาคครัวเรือนอาจมีอยู่ราว 1.7 แสนครัวเรือน (0.8% ของครัวเรือนไทยทั้งหมดที่ 23 ล้านครัวเรือน) คิดเป็นมูลค่าตลาดการติดตั้งรวมประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และภาคกลางเป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ค่อนข้างสูง (มากกว่า 50,000 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน)
ทั้งนี้แม้กลุ่มเป้าหมายจะมีสัดส่วนน้อย แต่หากเกิดปัจจัยเร่งอื่นๆ เพิ่มเติม ก็อาจช่วยหนุนให้ Solar rooftop ในครัวเรือนไทยเร่งตัวขึ้นได้ในอนาคต โดยกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสติดตั้ง Solar rooftop จะมีเพียง 0.8% ท่ามกลางเงื่อนไขราคาติดตั้งและต้นทุนค่าไฟฟ้าแบบปัจจุบัน ขณะที่ครัวเรือนที่ติดตั้ง Solar rooftop ไปแล้วยังมีไม่ถึง 0.1% ซึ่งถือว่าเป็น Adoption rate ที่ต่ำมาก