svasdssvasds

พาชม ! โครงการ U-Solar 2.0 หนุนผู้ประกอบการอุตฯพลังงานแสงอาทิตย์ ในไทย

พาชม ! โครงการ U-Solar 2.0 หนุนผู้ประกอบการอุตฯพลังงานแสงอาทิตย์ ในไทย

จะพามาชมโครงการ U-Solar 2.0 ที่จะเข้ามาหนุนอุตฯพลังงานแสงอาทิตย์ ในไทยจากธนาคารยูโอบี ที่พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ล่าสุดได้ปรับเงื่อนไขการชำระเงินแก่ผู้พัฒนา ผู้รับเหมาโครงการ พร้อมเชื่อมต่อกับผู้จัดหาอุปกรณ์โซลาร์ชั้นนำ

พลังงานหมุนเวียนจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นพลังงานหมุนเวียนที่มีความน่าสนใจอย่างมาก ที่หลายประเทศให้ความสนใจ รวมถึงประเทศไทยก็กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก และมีแนวโน้มอนาคตสดใส จึงทำให้หลายบริษัทเริ่มหันมาทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ก็ยังมีสถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มปล่อยสินเชื่อ และสนับสนุนโครงการโซล่าเซลล์มากขึ้น

อย่างล่าสุด ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ที่ได้ต่อยอดความสำเร็จโครงการยู-โซลาร์ ได้เปิดตัวยู-โซลาร์ 2.0 (U-Solar 2.0) วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพาไปชมว่าโครงการ U-Solar 2.0 เป็นอย่างไรบ้าง โดยโครงการดังกล่าวเป็นการขยายเครือข่ายพันธมิตรไปยังผู้จัดหาอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของประเทศรวม 9 ราย ซึ่งมีธนาคารธนาคารยูโอบีสนับสนุนโซลูชันทางการเงินให้แก่ทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทยพัฒนาอย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างยั่งยืน

พาชม ! โครงการ U-Solar 2.0 หนุนผู้ประกอบการอุตฯพลังงานแสงอาทิตย์ ในไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SCG รุกตลาดพลังงานสะอาด ส่งโซลาร์เซลล์ครบวงจรเข้าประกวดโลกพลังงาน

 

ซึ่งการขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังพันธมิตรผู้ผลิตอุปกรณ์แผงโซลาร์ อินเวอร์เตอร์ และระบบติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวนรวม 9 บริษัท อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจาก Polytechnology ในฐานะตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ เข้ามาเป็นพันธมิตรโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้พัฒนาและผู้รับเหมาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคอาเซียน

พร้อมกันนี้ยูโอบียังได้แต่งตั้งให้ Sitron Power เป็นผู้รับเหมาออกแบบติดตั้ง (EPC Contractor) ของโครงการยู-โซลาร์เพิ่มอีก 1 ราย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไปที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในเรื่องการติดตั้งและควบคุมระบบ และแพคเกจบริการหลังการขาย

ด้านนายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารยูโอบีได้มุ่งมั่นในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจแบบ net zero ของทั้งภูมิภาค โครงการ ยู-โซลาร์ เป็นหนึ่งในความพยายามเหล่านั้น โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อในทุกภาคส่วนตั้งแต่ผู้พัฒนาโครงการ ผู้รับเหมา และ ผู้ผลิต ช่วยให้การเข้าถึงสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน เพื่อปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นไปอย่างสะดวกขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาด้านพลังงานหมุนเวียนและการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในประเทศ ซึ่งนับตั้งแต่ที่ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยเปิดตัวโครงการนี้ในปี 2563 ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อสีเขียวกว่า 3.12 พันล้านบาท ให้แก่บริษัทและที่อยู่อาศัยรวมกว่า 1,800 แห่ง เปลี่ยนมาติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์

อย่างไรก็ตามโครงการยู-โซลาร์ 2.0 ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้แก่ผู้พัฒนาโครงการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และผู้รับเหมาออกแบบและติดตั้ง (EPC Contractor) ที่ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน ธนาคารยูโอบีพร้อมสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวและข้อเสนอพิเศษทางการเงิน ให้แก่ผู้พัฒนาโครงการและผู้รับเหมาที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทผู้จัดหาอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยให้สามารถมีเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาและติดตั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์หลายๆ โครงการพร้อมกัน ทั้งนี้ จะช่วยเร่งให้การพัฒนาด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการยู-โซลาร์ เป็นส่วนหนึ่งของกรอบแนวคิดการเข้าถึงเงินทุนที่ยั่งยืนเพื่อเมืองอัจฉริยะของยูโอบี (UOB Smart City Sustainable Finance Framework) สำหรับโครงการยู-โซลาร์ 2.0 ธนาคารได้ขยายกรอบการอนุมัติให้สินเชื่อไปยังทุกภาคส่วนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้กรอบแนวคิดการให้สินเชื่อสีเขียวและเงินทุนหมุนเวียนอย่างยั่งยืน (UOB Green Trade and Working Capital Sustainable Finance Framework)

โดยกรอบแนวคิดทั้งสองจะสนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสีเขียวและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างพันธมิตรในอุตสาหกรรมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบัน โครงการยู-โซลาร์ของกลุ่มธนาคารยูโอบีทั่วภูมิภาคอาเซียน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 186,000 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า (tCO2e) หรือเทียบได้กับการลดการใช้รถยนต์ลงเกือบ 40,000 คันต่อปี หรือปลูกต้นไม้มากกว่า 3 ล้านต้นภายในระยะเวลากว่า 10 ปี

related