สหรัฐฯ จับล็อบสเตอร์ได้ต่ำสุดในรอบ 15 ปี เพราะถูกพายุถล่มบ่อย

ผายมือไปที่รัฐเมน (Maine) อันเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของอุตสาหกรรมล็อบสเตอร์ ที่ใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวเอพี ระบุว่า ณ เวลานี้ ชาวประมงในรัฐเมนจับล็อบสเตอร์ได้น้อยลง หลังสหรัฐฯ เผชิญกับภัยพิบัติรุนแรงในช่วงปีที่ผ่านมา

สหรัฐฯ จับล็อบสเตอร์ได้แค่ไหน ?

จริง ๆ ไม่ใช่แค่ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ที่ชาวประมงในรัฐเมนจับล็อตสเตอร์ได้น้อยลง แต่กรากลดดิ่งลงมาทุก ๆ ปี ในปี 2021 เคยจับได้มากถึง 111 ล้านปอนด์ แต่ในปี 2023 กลับลดเหลือเพียง 97 ล้านปอนด์ และลดเหลือ 86.1 ล้านปอนด์ในปี 2024 นี่ถือเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 15 ปี ของปริมาณการจับล็อบสเตอร์ในรัฐเมน

หากย้อนกลับไปในช่วงปี 2000s รัฐเมนจับล็อบสเตอร์ได้ราว ๆ 50-80 ล้านปอนด์ จนไปพีคเป็น 120 ล้านปอนด์ ในช่วงปี 2010 จากนั้น ก็จับได้ปริมาณเท่านี้เรื่อยมา จนกระทั่งมาลดเหลือ 86.1 ล้านปอนด์ เมื่อปีที่แล้ว

ทำการประมงไม่สะดวก เพราะเจอพายุบ่อย

ทั้งนี้ เจเน็ท มิลล์ (Janet Mills) ผู้ว่าการรัฐเมน ออกมาเปิดเผยว่า “พายุที่รุนแรงนั้นสร้างความเสียหายให้กับการประกอบอาชีพประมงเป็นอย่างมาก ทำให้ชาวประมงพาณิชย์ นักเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือแม้แต่พ่อค้าอาหารทะเล จับล็อบสเตอร์ รวมถึงสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ได้น้อยลง”

แต่ถึงแม้จะจับล็อบสเตอร์ได้ลดลง ไม่พีคเท่าช่วง 4-5 ปีก่อน แต่มูลค่ากลับพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2024 ชาวประมงในรัฐเมนจับปลาได้เป็นมูลค่ากว่า 528 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.8 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐเมน ในแง่ที่ว่าจะฟื้นฟูการทำประมงอย่างไรให้สามารถกลับมาเฟื่องฟูได้ดังเดิม ภายใต้เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งไม่มีใครคาดเดาได้ 100% ว่าจะเกิดอะไรรุนแรง ทั้งล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ยังลดจำนวนพนักงานในหน่วยงานรัฐบาลกลาง อาทิ NOAA

ที่มา: AP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• น้ำทะเลอุ่นขึ้น ทำชาวประมงสหรัฐฯ จับล็อบสเตอร์ได้น้อยสุดในรอบ 14 ปี
• สหรัฐฯขึ้นบัญชี "กุ้งล็อบสเตอร์" อาหารควรหลีกเลี่ยง เสี่ยงทำวาฬสูญพันธุ์
• กุ้งล็อบสเตอร์เกยหาด 500 ตันบนชายฝั่งแอฟริกาใต้