หลายเมืองทั่วโลกกำลังพยายามหาวิธี 'ลดความร้อนในเขตเมือง' และผลักดันให้เป็นปัญหาด่วนอันดับแรก หลังพบมีผู้เสียชีวิตจากความร้อนเพิ่มขึ้นทุกปี
วิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้เมืองใหญ่ทั่วโลกต้องประสบกับคลื่นความร้อนและอุณหภูมิที่สูงขึ้นผิดปกติ ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องเผชิญกับปัญหาความเครียด และผลกระทบทางสุขภาพที่อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ทำให้การ 'ลดความร้อนในเขตเมือง' ถูกผลักดันขึ้นมาเป็นปัญหาอันดับแรกๆ ที่หลายประเทศพยายามเร่งแก้ไขให้เร็วที่สุด
หนึ่งในนั้นคือกรุงปารีสของฝรั่งเศส ที่เริ่มใช้มาตรการปรับเปลี่ยนเมืองครั้งใหญ่ ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มหลายพันต้น ติดตั้งน้ำพุที่สามารถดื่มได้และปล่อยละอองน้ำเพื่อช่วยดับร้อน และดัดแปลงหลังคาสังกะสีทั่วเมืองให้เป็น 'หลังคาสีเขียว' ที่มีการปลูกต้นไม้ช่วยลดการดูดซับความร้อนของอาคาร
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า วิธีการออกแบบและสร้างเมืองที่ทำกันมาตลอดคือสิ่งที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง เพราะคอนกรีตที่ใช้สร้างอาคาร และยางมะตอยที่ใช้สร้างถนน คือวัสดุที่ดูดซับความร้อนมากักไว้ ทำให้ตัวเมืองมีอากาศร้อนมากกว่าพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะเมืองที่ไม่มีพื้นที่สีเขียวเลย
ขณะที่อีกหลายเมืองทั่วโลกก็กำลังดำเนินการแบบเดียวกับกรุงปารีส เช่น เมืองฟีนิกซ์ในรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ที่เผชิญกับความร้อนสูงยาวนานติดต่อกันกว่า 3 เดือน ได้ใช้การสร้าง 'ทางเท้าเย็น' ด้วยการทาสีเคลือบที่สะท้อนแสงแดดลงไปบนทางเท้า ช่วยลดอุณหภูมิได้มากถึง 6.6 องศาเซลเซียส ส่วนบาร์เซโลนาของสเปน และบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ได้สร้างศูนย์หลบภัยสภาพอากาศ ให้ผู้คนสามารถเข้ามามีพื้นที่ที่เย็นกว่าสำหรับหลบภัยในช่วงที่เกิดคลื่นความร้อนในเมืองได้
แม้แต่กรุงลอนดอนของอังกฤษ ก็เตรียมรับมือกับอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น ด้วยนโยบาย "ระเบียงสีเขียว" โดยการปลูกพืชและต้นไม้ริมระเบียงเพื่อสร้างเส้นทางเดินที่เย็นสบายขึ้น คาดว่าจะช่วยลดอุณหภูมิได้ 3-8 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมืองที่หันมาใช้แนวคิด 'หลังคาเย็น' ด้วยการทาสีหลังคาเป็นสีขาว หลังนักวิจัยบอกว่าวิธีนี้อาจช่วยชีวิตผู้คนจากความร้อนได้หลายร้อยคน